วันที่ 14 พ.ค. 64 ฌอน บูรณะหิรัญ พร้อมด้วยนายอากาศ วสิกชาติ ทนายความ เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปากเกร็ด เพื่อมอบหลักฐาน และให้ปากคำเพิ่มเติม หลังมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดี กรณีที่ฌอน เปิดรับบริจาคเงิน เพื่อนำไปช่วยดับไฟป่าที่จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 2 ข้อหาคือนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และ พ.ร.บ.การเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยฌอน กล่าวว่า ทุกอย่างตนเองสามารถชี้แจงทั้งหมด รวมถึงมีหลักฐานที่แสดงความบริสุทธิ์ใจ ทั้งเรื่องเงินเงินบริจาคที่นำไปซื้อหน้ากากอนามัยให้กับโรงพยาบาลในช่วงที่มีการระบาดโควิด-19 ในระยะแรก ซึ่งตนเองคิดว่าทำได้เพราะในช่วงนั้นไฟป่าเบาลง และโควิดกำลังระบาด จึงนำเงินที่ได้รับจากการบริจาค ไปซื้อหน้ากากอนามัย และมีหลักฐานว่า ไม่ได้นำใบเสร็จไปยื่นภาษี แต่เมื่อมารู้ว่าทำแบบนี้ไม่ได้ จึงนำเงินส่วนตัวกลับเข้าไปให้ครบเท่าจำนวนเดิมคือ 1.3 ล้านบาท และที่ผ่านมาตนเองก็ยังคงลงพื้นที่บำเพ็ญประโยชน์เพื่อช่วยเหลือผู้คน ซึ่งยอดเงินบริจาคในตอนนี้เหลืออยู่ 2 แสนกว่าบาท แต่ได้หยุดพักชั่วคราว เนื่องจากการระบาดที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงต้องงดจัดกิจกรรม
พร้อมทั้งยืนยันว่า ตนเองไม่เคยรับเงินจากการเป็นไลฟโค้ช และไม่เคยแอบอ้างเป็นไลฟโค้ช แต่ตนเองเป็นเพียงคนที่ชอบทำคอนเท้นต์ และนิยามว่าตนเองเป็นเพียงแค่ยูทูปเบอร์คนหนึ่งเท่านั้น และจะทำคอนเท้นต์ต่อไป แลพขแบคุณคนที่ยังคอยสนับสนุนตนเอง
ด้านทนายอากาศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนเตรียมที่จะสรุปสำนวนหลักฐาน โดยจากการสอบถามทราบว่าพยานหลักฐานใกล้จะสมบูรณ์แล้ว โดยขณะนี้มีคนมาแจ้งความไว้แล้ว 5 ราย และล่าสุดมีคุณศรีสุวรรณ จรรยา ได้เข้ามาแจ้งข้อหาผ่านทาง ปอท. รวม 6 ราย ส่วนข้อหาในตอนนี้มีทั้งหมด 3 ข้อหาคือ ฐานฉ้อโกงประชาชน / ข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ / พ.ร.บ. ควบคุมการเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยขณะนี้ได้ทำการปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากมีพยานหลักฐานที่ครบถ้วนสมบูรณ์