บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ
“อมตะ สมาร์ทซิตี้ ชลบุรี” เร่งขยายพื้นที่พัฒนาเพิ่มอีก 1,910 ไร่ มุ่งสร้างเมืองอัจฉริยะต้นแบบ บนฐานพลังงานสะอาด ควบคู่การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับ
คุณภาพชีวิตและการอยู่ร่วมกับชุมชนอย่างสมดุล พร้อมจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชน ครั้งที่ 2
รวม 6 เวที ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดชลบุรีและฉะเชิงเทรา ระหว่างวันที่ 17–19 ธันวาคม 2568
นายนำชัย นิลทอง ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม ผู้รับผิดชอบดูแลโครงการอมตะ สมาร์ทซิตี้
ชลบุรี บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยถึงแผนที่จะพัฒนาโครงการ
“อมตะ สมาร์ทซิตี้ ชลบุรี” ให้เป็นเมืองอัจฉริยะต้นแบบในการประหยัดพลังงานควบคู่กับการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยขยายพื้นที่เพิ่มจาก 5,354.5 ไร่ เป็น 7,231.21 ไร่ โดยมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินประมาณ 33.34 ไร่ ให้ กฟภ. เพื่อพัฒนาเป็นสถานีไฟฟ้าย่อยในอนาคต และ เพิ่มขนาดพื้นที่โครงการประมาณ 1,910.05 ไร่ เพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและ พาณิชยกรรมที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งเพิ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายให้สอดคล้องกับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย
ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้จัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 ต่อร่างรายงาน และมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม “โครงการนิคมอุตสาหกรรมอมตะ สมาร์ทซิตี้ ชลบุรี (ส่วนขยาย ครั้งที่1)” จำนวน 6 เวที
ระหว่างวันที่ 17-19 ธันวาคม 2568 ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรีและฉะเชิงเทรา โดยมีผู้แทนจากภาครัฐร่วมเป็นประธานในแต่ละเวที ประกอบด้วย อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี, อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี, อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา, อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา และอำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่ ได้แก่
ผู้นำชุมชน ประชาชนโดยรอบโครงการ หน่วยงานราชการทุกระดับ องค์กรด้านสิ่งแวดล้อม สถาบันการศึกษา สื่อมวลชนในท้องถิ่น และผู้ที่สนใจทั่วไป โดยเนื้อหาการประชุมครอบคลุมรายละเอียดโครงการ ผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม มาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และ
มาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะไปใช้ประกอบการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้มีความครอบคลุมและเหมาะสม
มากที่สุด

นายนำชัย กล่าวว่า โครงการอมตะ สมาร์ทซิตี้ ชลบุรี จะเป็นเมืองอุตสาหกรรมต้นแบบที่จะผสาน
เทคโนโลยีสะอาดเข้ากับการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสร้างสาธารณูปโภค พื้นที่สีเขียว และระบบพลังงานอัจฉริยะภายในเมือง เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างเป็นระบบ โดยการพัฒนาเมืองอมตะ สมาร์ทซิตี้ ชลบุรี ตอบโจทย์ด้านเศรษฐกิจระดับชาติ
และยุทธศาสตร์การพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เพื่อยกระดับภาคอุตสาหกรรมควบคู่กับคุณภาพชีวิตของประชาชนและร่วมกันวางรากฐานอนาคตใหม่ของประเทศไทยอย่างมั่นคง“โครงการอมตะ สมาร์ทซิตี้ ชลบุรี พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของความรับผิดชอบในทุกมิติ ไม่เพียงมุ่งสร้างการเติบโตด้านเศรษฐกิจหรืออุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญคือผู้คนในพื้นที่ซึ่งต้องเติบโตไปพร้อมกัน และยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการเปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของการพัฒนาเพื่อให้เมืองอัจฉริยะแห่งนี้เติบโตอย่างสมดุล และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืนอย่าง
แท้จริง” นายนำชัย กล่าว
..โดยในวันนี้จัดขึ้นที่ศาลาเฉลิมพระเกียรติ เทศบาลตำบลพานทอง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี มีนางสาวกันยากร กุลพรรัตน์ นายอำเภอพานทอง กล่าวเปิดโครงการ ซึ่งในวันนี้ได้มีการการนำเสนอรายละเอียดโครงการ ผลการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม มาตรการป้องกันและแก้ไข
– ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและร่างมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยผู้ชำนาญการด้านสิ่งแวดล้อม ของบริษัท ทีแอลที คอนซัลแตนส์ จำกัด (บริษัทที่ปรึกษาฯ)
– การรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และตอบข้อชักถาม โดยผู้แทนของบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) และผู้ชำนาญการด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทที่ปรึกษาฯ
ภาพ/ข่าว อาษา / ปรีญาภรณ์ ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.ฉะเชิงเทรา




