
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 ระหว่างเวลา 09.00น. ที่โรงแรมกัซซัน พาโนราม่า กอล์ฟ คลับ ตำบลมะเขือแจ้ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน โดยมีนายนพพร บุญโชติตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดลำพูน เป็นประธานในพิธี มีการเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ หัวข้อ “มาตรการป้องกันการทุจริตในกระบวนการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติ” วิทยากร โดย
1. นางสาวพุทธชาติ อินทร์สภา จัดหางานจังหวัดลำพูน สำนักงานจัดหางานจังหวัดลำพูน
2. ร้อยตำรวจเอก พิเชษฐ รบไพรี รองสารวัตรตรวจคนเข้าเมือง(สว.ตม.จว.)ลำพูน สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดลำพูน
3. นายนพพร บุญโชติตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ป.ช. ประจำ จังหวัดลำพูน สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดลำพูน
ดำเนินรายการ โดย นายณัฏฐ์ วิศิษฏ์ยิงเจริญ หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดลำพูน

เวลา 13.00น. มีการบรรยาย หัวข้อ “การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์และบริการในบัญชีนวัตกรรม พร้อมกรณีศึกษาในจังหวัดลำพูน” โดย นางโสมฤทัย คำราพิช นักวิชาการคลังชำนาญการพิเศษ สำนักงานคลังจังหวัดลำพูน และคณะฯ เรื่อง มาตรการป้องกันการทุจริตในกระบวนการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติ โดย สำนักงาน ป.ป.ช.
กิจกรรมครั้งนี้ จึงมุ่งเน้นให้เครือข่าย STRONG ลำพูน ร่วมกัน ถอนหมุดพื้นที่เสี่ยงทุจริต – เปิดพื้นที่โปร่งใส – ไม่ทนต่อการทุจริตทุกรูปแบบ เพื่อสร้างระบบที่ตรวจสอบได้และมีส่วนร่วมจากประชาชนอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ลำพูนชี้ว่า สาเหตุสำคัญของแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย คือ การทุจริตหรือการละเว้นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐบางราย ที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนตั้งแต่การเดินทางเข้าเมือง การพำนัก การทำงาน จนถึงการผลักดันกลับประเทศต้นทาง ซึ่งบางกรณีพบการทำงานเป็น”ขบวนการ” ร่วมกับนายหน้าข้ามชาติ แม้รัฐบาลจะเร่งแก้ปัญหา ทั้งการพิสูจน์สัญชาติ การจัดระบบทำงานตามพระราชกำหนด( พ.ร.ก.)การทำงานของคนต่างด้าว 2560–2561 รวมถึงการนำเข้าแรงงานตามระบบ MOU แต่สถานการณ์โควิด-19 ทำให้แรงงานเข้าเมืองต่ำกว่าความต้องการ จนนำไปสู่การลักลอบเข้าเมืองจำนวนมาก

ที่มาและความสำคัญ ปัญหาเกี่ยวกับ “แรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย” มีสาเหตุสำคัญประการหนึ่ง คือ การทุจริตของเจ้าหน้าที่ หรือการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่และอำนาจเกี่ยวข้อง ในหลายกรณีมีการดำเนินการร่วมกับเครือข่ายนายหน้าข้ามชาติในลักษณะเป็นขบวนการ ตั้งแต่ชั้นแรกที่แรงงานข้ามชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ระหว่างที่แรงงานข้ามชาติพำนักอยู่และทำงานในประเทศ ไปจนถึงช่วงที่แรงงานข้ามชาติเดินทางกลับหรือถูกผลักดันหรือส่งกลับประเทศต้นทาง ถึงแม้รัฐบาลได้พยายามแก้ไขปัญหาแรงงานข้ามชาติมาอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเร่งรัดการพิสูจน์สัญชาติ และการบริหารจัดการการทำงานของแรงงานข้ามชาติภายใต้พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พุทธศักราช 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ พ.ศ. 2561) รวมถึงการเร่งรัดการนำเข้าแรงงานข้ามชาติตามระบบ Memorandum of Understanding : MOU และด้วยสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID – 19) ที่ผ่านมา ส่งผลให้ไม่สามารถดำเนินการนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU ได้ทันตามความต้องการใช้แรงงานภายในประเทศ รัฐบาลได้แก้ไขปัญหาดังกล่าว ให้แรงงานข้ามชาติที่ใบอนุญาตทำงานสิ้นสุดลง ในช่วงที่ผ่านมาได้รับผ่อนผันโดยมติคณะรัฐมนตรีให้อยู่ต่อและได้รับอนุญาตให้ทำงานต่อไปได้ จึงปรากฏแรงงานข้ามชาติจากประเทศเพื่อนบ้าน ลักลอบเข้าเมืองเป็นจำนวนมาก
ข้อมูลจากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ พบว่า ในหลายกรณีปรากฏว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐฯเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือแสวงหาประโยชน์จากขบวนการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานข้ามชาติ ประกอบกับในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ของประเทศไทย ประจำปี พุทธศักราช 2564 และประจำปี พุทธศักราช 2565 ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ระบุว่า คงเป็นเหตุบ่อนทำลายความพยายาม ในการต่อต้านและปราบปรามการค้ามนุษย์ของเจ้าหน้าที่ของรัฐบางราย มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับอาชญากรรมการค้ามนุษย์ โดยการทุจริตของเจ้าหน้าที่ หรือการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่และอำนาจเกี่ยวข้อง ในลักษณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือแสวงหาประโยชน์ จากขบวนการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานข้ามชาติ ภาพลักษณ์เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เรียก รับ หรือแสวงหาประโยชน์ ได้ออกไปสู่สายตาชาวโลกในรูปแบบของรายงานต่าง ๆ ที่ได้ทำการประเมินโดยองค์กร หรือหน่วยงานในต่างประเทศ เช่น รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์(Trafficking in Persons Report : TIP Report) รายงานโดยกระทรวงการต่างประเทศรัฐอเมริกา รายงานค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต(Corruption Perceptions Index หรือ ) องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ส่งผลในเรื่องความเชื่อมั่น และความโปร่งใสของประเทศกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศได้
รายงานจาก สหรัฐฯ(TIP Report 2021–2022) และ ดัชนีคอร์รัปชัน CPI ยังชี้ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบแรงงาน ซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นประเทศและเศรษฐกิจโดยรวม..




