ขแมร์ไทม์สรายงานว่าพลโทมาลี โสเจียตา ปลัดและโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพุชาออกแถลงการณ์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (พฤหัสที่ 11 ธค.) ระบุว่านับตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 10 ธันวาคม เป็นต้นมา กองทัพไทยได้ยิงและสังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์ชาวกัมพูชามากถึง 10 คน รวมถึงทหาร 1 นาย และทำให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บมากถึง 60 คน นอกจากนี้ก็ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและแถลงการณ์ร่วมต่างๆที่มีการลงนามร่วมกัน รวมทั้งกฎหมายระหว่างประเทศแบบนับไม่ถ้วน เช่นการใช้เครื่องบินขับไล่ F-16 ทิ้งระเบิดในพื้นที่พลเรือน, ใช้แก๊สพิษ, ทำลายสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ อย่างปราสาทพระวิหารและปราสาทตาควาย, ใช้อาวุธหนักทุกประเภทอย่างไม่เลือกเป้าหมาย ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค
พลโทมาลีรำพันต่อว่า กระทรวงกลาโหมกัมพูชารู้เสียใจต่อการกระทำที่ไม่สุจริตของฝ่ายไทย และขอปฏิเสธข้อกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีและไร้มูลความจริงซ้ำแล้วซ้ำเล่าของฝ่ายไทย จนกลายเป็นนิสัยของกองทัพไทยที่ใช้เป็นข้ออ้างเพื่อหวังรุกล้ำอธิปไตยของกัมพูชา ขณะที่กัมพูชายึดมั่นในข้อตกลงและกฎหมายระหว่างประเทศมาโดยตลอด
ทั้งนี้โฆษกกลาโหมกัมพูชาเตือนว่า หากนานาชาติยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เพื่อกดดันกองทัพไทยให้รับผิดชอบต่อการกระทำที่ผิดกฎหมายเหล่านี้ วันนี้กองทัพไทยรุกรานกัมพูชา พรุ่งนี้กองทัพไทยอาจทำเช่นเดียวกันกับประเทศอื่นๆ ที่อ่อนแอและเล็กกว่าก็ได้

