“ศ.ดร.เกรียงศักดิ์” ชี้ชัด รัฐธรรมนูญเหมือนเข็มทิศแผนที่ประเทศ แต่สำคัญสุดคือ จิตสำนึกและการมีส่วนร่วมของประชาชน

"ศ.ดร.เกรียงศักดิ์" ชี้ชัด รัฐธรรมนูญเหมือนเข็มทิศแผนที่ประเทศ แต่สำคัญสุดคือ จิตสำนึกและการมีส่วนร่วมของประชาชน

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ (ดร.แดน) นักวิชาการอาวุโส มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประธานสถาบันการสร้างชาติ (NBI)ประธานสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา(IFD) กล่าวถึง รัฐธรรมนูญกับอนาคตการเมืองไทยในวันรัฐธรรมนูญ ว่า แม้ไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใดจะสมบูรณ์แบบ แต่รัฐธรรมนูญก็มีความจำเป็นต้องเขียนให้เกิด อุตมภาพที่มีช่องโหว่การตีความน้อยที่สุดและมีผลลัพธ์ที่ดีต่อชาติและประชาชนที่สุด รัฐธรรมนูญมิได้เป็นเพียงกฎหมายเล่มหนาที่อ่านและเข้าใจยาก แต่แท้จริงแล้วคือ “สัญญาแห่งอนาคต” หรือ “ข้อตกลงร่วมกันของคนทั้งชาติ” เพื่อกำหนดวิถีแห่งการอยู่ร่วมกันภายใต้กติกาและหลักการที่สำคัญ รัฐธรรมนูญจึงเปรียบเสมือน แผนที่แห่งอำนาจและคุณค่า โดยรัฐธรรมนูญ มีหลักสำคัญ 3 ประการคือ จำกัดอำนาจรัฐ ,คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน และวางกลไกถ่วงดุลอำนาจ ให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้ เป้าหมายสูงสุดของรัฐธรรมนูญคือ “เพื่อชาติและประชาชน” โดยปัญหาเชิงโครงสร้างที่ประเทศไทยเผชิญคือการมีรัฐธรรมนูญมาแล้วมากกว่า 20 ฉบับ ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก สิ่งนี้สะท้อนว่าคนในชาติยังไม่สามารถตกลงกันได้อย่างแท้จริงว่า “เราจะอยู่ร่วมกันในประเทศนี้แบบไหน” รัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับสุดท้ายที่ใช้ในปัจจุบัน ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน โดยเกิดขึ้นหลังการรัฐประหารปี 2557 และถูกออกแบบมาเพื่อสร้าง “เสถียรภาพผ่านการควบคุม” มากกว่าเสถียรภาพผ่านสัมมาฉันทามติของประชาชน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยดร.แดน วิเคราะห์ปัญหาเชิงรูปธรรมและกับดักอำนาจจากรัฐธรรมนูญ ว่า อนาคตของการเมืองไทยถูกบั่นทอนจากวังวนการเมือง 2 แบบที่ดำเนินมาตลอด 94 ปีของประชาธิปไตย: แบบที่หนึ่ง คือ การเมืองแบบใช้เงิน (Cash Politics) ซึ่งมาจากการใช้ทุนและอำนาจของเจ้าบุญทุ่มหรือ บ้านใหญ่ และแบบที่สองคือ การเมืองแบบยึดอำนาจ (Coup Politics) ซึ่งใช้การรัฐประหารเพื่อฉีกรัฐธรรมนูญและร่างกติกามาเพื่อสกัดกั้นการเลือกตั้ง แบบใช้เงินซื้อเสียง ขณะที่โมเดลการเมืองที่พึงประสงค์ของผม คือ การเมืองภาคพลเมือง (Civic Politics) ซึ่งประชาชนมีส่วนรับผิดชอบอย่างมีวุฒิภาวะเพื่อมาเลือกคนที่ดีที่สุดจากตัวเลือกคนทั้งประเทศมาทำหน้าที่ แต่โมเดลนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้โดยง่าย ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมจึงต้องมุ่งเป้าไปที่การทำลายวงจรดังกล่าว กรณีศึกษาคือปัญหาที่เกิดจากรัฐธรรมนูญ 2560 และการทำงานของฝ่ายผู้ใช้อำนาจ

 

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ ได้เสนอแนะเชิงรูปธรรมเพื่อการปรับใช้ในการแก้ไขปัญหา ว่า เพื่อให้รัฐธรรมนูญและอนาคตทางการเมืองไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างเป็นรูปธรรม การปฏิรูปควรครอบคลุมทั้งมิติต่างๆ คือ การปฏิรูปเชิงกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ (Process Reform) โดย 1)การร่างรัฐธรรมนูญบนฐานงานวิจัย (Research-Based Constitution): การออกแบบกลไกทางการเมืองและกฎหมายต้องมีรากฐานจาก หลักฐาน การวิจัย ข้อมูล ข้อเท็จจริง และกรณีศึกษาจากนานาประเทศอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้กลไกที่เหมาะสมกับบริบทไทยอย่างแท้จริง แทนที่จะเป็นการออกแบบเพื่อเอื้อประโยชน์ผู้มีอำนาจ 2) การร่างรัฐธรรมนูญที่มุ่งหลักการใหญ่ (Living Constitution): ควรหลีกเลี่ยงการเขียนแบบ ละเอียดถี่ยิบ เพราะจะทำให้ต้องมีการแก้ไขบ่อยครั้ง แต่ควรมุ่งเขียน หลักใหญ่ ๆ เพื่อให้สามารถไปประยุกต์ใช้ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งควรมีระบบทบทวนเป็นระยะ เช่น ทุก 10 ปี เพื่อให้เท่าทันบริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย 3) การมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างมีคุณภาพ (Participatory Constitution): รัฐธรรมนูญต้องเป็นของประชาชน ต้องเปิดช่องให้ประชาชนมีส่วนร่วมตั้งแต่การร่าง แต่การถามประชาชนต้องระมัดระวังไม่ให้เป็นคำถามที่ ตื้น ๆ หรือชี้นำกำกวม และต้องใช้เหตุผลและความสุขุมคัมภีรภาพในการถกเถียง

 

การปฏิรูปเชิงคุณค่าและการตีความ (Value-Based and Interpretative Reform) ทั้งเรื่องการปลูกฝังจริยธรรมทางอำนาจ (Ethics-Driven Constitution): รัฐธรรมนูญต้องมุ่งสร้าง “วัฒนธรรมรับผิดชอบ” (Accountability Culture) โดยมีหลักคุณธรรม และต้องส่งเสริมให้ได้มาซึ่งคนที่ดี เก่ง และกล้า การตีความกฎหมายตามผลลัพธ์แห่งเจตนา (Intenteorial Outcome-Based Interpretation): เมื่อต้องมีการตีความกฎหมาย ต้องตีความตามเจตนาของผลลัพธ์ ที่ต้องการให้เกิดขึ้นจากสิ่งที่เขียน มิใช่ตีความตามตัวอักษรหรือเจตนาของผู้เขียนเพียงอย่างเดียว

 

ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่ดีย่อมต้องมี 3 หลักการอยู่เบื้องหลัง คือ ความเหมาะควร (Righteousness), ความชอบธรรม (Legitimacy), และ ประสิทธิสภาพ (Efficacy) การยุติจริย-นิติสงคราม: เมื่อเกิดความเห็นไม่ตรงกันทางกฎหมายหรือจริยธรรม จะต้อง สงบศึก ด้วย สันติวิธี และ ถูกทำนองคลองธรรม และไม่ควรใช้ความรุนแรง หรือการล้มล้างโดยวิธีที่ไม่ถูกต้อง การแก้ไขปัญหาด้านโครงสร้างอำนาจรัฐ สร้างสมดุลอำนาจระหว่างผู้ใช้อำนาจ: อำนาจรัฐ (บริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ) ต้องมีพอประมาณ และต้องถ่วงดุลกันไว้ด้วย องค์คณะ เพราะผู้ใช้อำนาจทุกคนต่างเป็น มนุษย์เดินดิน ไม่ได้มีความสมบูรณ์เป็นเทวดา การปฏิรูปองค์กรอิสระและการสรรหา: ต้องพิจารณาให้องค์กรอิสระมีความยึดโยงกับประชาชนมากขึ้น และที่สำคัญคือต้องเถียงหลักการกรอบมโนทัศน์ให้สุดตกผลึกแนวคิดก่อนไปร่างรายมาตรา ว่าองค์กรอิสระควรมีอำนาจแค่ไหน ภายใต้เงื่อนไขใด โดยมุ่งเน้นที่การได้มาซึ่ง ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ความชอบธรรม และความเหมาะควร และการปฏิรูปการสรรหาผู้นำ: ต้องเขียนกฎกติกาเพื่อได้นายกฯ ที่ดีที่สุดในสายตาประชาชนมาเป็นผู้สมัคร และการสรรหาผู้ใช้อำนาจรัฐทั้งหมดต้องมุ่งให้ได้มาซึ่งคนที่มี คุณธรรม และ ไม่ลำเอียง มีความดีงาม มีสติปัญญามีความรู้ความเข้าใจ

 

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ ย้ำว่า อนาคตการเมืองไทยเริ่มที่จิตสำนึกของคนไทยเอง รัฐธรรมนูญจะเป็นเพียง “เครื่องมือ” บนกระดาษเท่านั้น รัฐธรรมนูญไม่ว่าจะร่างดีเท่าไรก็ไม่สามารถเปลี่ยนประเทศในชั่วข้ามคืน แต่ต้องมีความพยายามเปลี่ยนให้มีธรรมะ ปัญญารู้คิดของคนในประเทศ เราไม่ควรฝากความหวังเกินจริงไว้กับการเขียนกฎหมาย เพราะไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใดเขียนได้ดีทั้งหมดหรือเสียทั้งหมด รัฐธรรมนูญคือ “เมล็ดพันธุ์” และประชาชนคือ “ดิน” เมล็ดพันธุ์จะเติบโตได้ดีเพียงใด ขึ้นอยู่กับว่าดินนั้นอุดมสมบูรณ์เพียงใด

 

“อนาคตของการเมืองไทยจึงไม่ได้เริ่มจากรัฐธรรมนูญที่สมบูรณ์แบบ (ซึ่งไม่มีอยู่จริง) แต่เริ่มต้นจาก “ประชาชนที่เข้มแข็งพอจะสร้างรัฐธรรมนูญที่มีอุตมภาพดีพอประมาณ” จะใช้ประยุกต์กับสังคมที่จะพลวัตเรื่อยไปในอนาคตได้ เพราะการเมืองเป็นเรื่อง ดีงาม และเป็นเรื่องเพื่อส่วนรวม ดังนั้นทุกคนจึงควรมีส่วนร่วมและไม่นิ่งเฉย เพื่อให้ประเทศหลุดพ้นจากกับดักที่ยืดเยื้อมานานด้วยการแปลงโฉมสาระประเทศให้วัฒนาถาวรสถาพรตลอดไป”ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ ระบุ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ซาบีดา" เปิดตัว "บ้านท่าช้าง (วัดโฆษา)" เพชรบูรณ์ 1 ใน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ "เที่ยวชุมชน ยลวิถี"
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ฮาร์บินเปิดตัว 'มิสเตอร์สโนว์แมน' ปีนี้สูง 23.8 เมตร
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนวางรางรถไฟความเร็วสูงสายเหนือสุดไปฮาร์บินเสร็จสมบูรณ์
"ศ.ดร.เกรียงศักดิ์" ชี้ชัด รัฐธรรมนูญเหมือนเข็มทิศแผนที่ประเทศ แต่สำคัญสุดคือ จิตสำนึกและการมีส่วนร่วมของประชาชน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) อากาศเย็นยะเยือกในจีนเปลี่ยน 'เต้าหู้'เป็นใบมีด
BDMS Wellness Clinic เดินหน้าขยายเครือข่ายสุขภาพสู่ตะวันออกกลาง “เสริมพลังความร่วมมือระดับสากล ปักหมุดไทยสู่ Wellness Hub ระดับโลก”

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​