โพลเผย ปชช.จดจำผลงานภูมิใจไทยมากสุด

การเมืองไทยเปลี่ยนขั้ว! ภูมิใจไทยเต็งสุดผลงาน ปวงชนไทยแรงไม่หยุด พรรคเศรษฐกิจขึ้นแท่นตัวเต็งด้านความมั่นคงชายแดน

วันนี้ สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยรายงานผลการสำรวจ เรื่อง “จุดเด่นพรรคการเมือง” จากกลุ่มตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,108 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 15 – 22 พฤศจิกายน 2568

ผลการสำรวจครั้งนี้โดยภาพรวม สะท้อนให้เห็นว่า การรับรู้–ภาพจำ–และสโลแกนเชิงนโยบาย กลายเป็น “ตัวแปรหลัก” ที่กำหนดความเชื่อมั่นและการจดจำของประชาชนต่อพรรคการเมืองทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กในปี 2568

โดยเมื่อสอบถามถึงการรับรู้ต่อพรรคการเมืองขนาดใหญ่ทั้ง 5 พรรคมีระดับการรับรู้สูงมาก โดยเฉพาะ 3 พรรคแรก ได้แก่ พรรคประชาชน 96.8% ,พรรคภูมิใจไทย 96.5% และ พรรคเพื่อไทย 96.1% ซึ่งตัวเลขระดับใกล้เคียงกันแสดงให้เห็นว่า ทั้งสามพรรคยัง “ครองตำแหน่งพรรคหลักของประเทศ” ในมิติการรับรู้สาธารณะอย่างชัดเจน ส่วนพรรคพลังประชารัฐ 85.3% และรวมไทยสร้างชาติ 81.4% ยังคงอยู่ในระดับการรับรู้ที่สูง แม้ว่าจะเป็นช่วงที่บทบาทลดลงในบางมิติ ลักษณะดังกล่าวสะท้อนว่า พรรคใหญ่มีแบรนด์ทางการเมืองที่ฝังลึกในสังคมไทย แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมา

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อสอบถามถึง ภาพจำจากผลงานของพรรคการเมืองขนาดใหญ่ สิ่งที่ค้นพบคือ “ภาพจำจากผลงาน” คือปัจจัยกำหนดความนิยมมากกว่า “ชื่อพรรค” โดยพบว่า พรรคภูมิใจไทย ได้รับการจดจำมากที่สุด 71.3% จากภาพจำ “พูดแล้วทำ” และผลงานเชิงจริง เช่น คนละครึ่งพลัส กระตุ้นเศรษฐกิจ ขายข้าวให้จีนหลายแสนตัน เกษตรกรยิ้มได้ และปราบสแกมเมอร์ เป็นต้น

รองลงมาคือ พรรคประชาชน 64.7% ถูกมองว่า “เพื่อประชาชน” ผ่านบทบาทตรวจสอบรัฐบาล แก้ทุจริต และการเมืองเชิงคุณธรรม และ พรรคเพื่อไทย 52.1% มีภาพจำ “โอกาสไทยทำได้จริง” ผ่าน การต่อรองภาษีทรัมป์ ซอฟต์พาวเวอร์และความสามารถในการต่อรองเศรษฐกิจระยะสากล
ผลโพลดังกล่าวนี้ชี้ว่า ประชาชนให้คะแนน “ผลงานที่สะท้อนในชีวิตจริง” มากกว่าการสื่อสารเชิงสัญลักษณ์เพียงอย่างเดียว

จุดที่น่าสนใจที่สุดจากผลสำรวจคือการเติบโตของพรรคเปิดใหม่ 3 พรรคแรก ได้แก่ พรรคปวงชนไทย เพิ่มขึ้น +22.7 จุด จาก 5.4 เป็น 28.1% ,พรรคเศรษฐกิจ เพิ่มขึ้น+17.1 จุด จาก 47.8 เป็น 64.9% พรรคไทยก้าวใหม่ เพิ่มขึ้น +15.1 จุด จาก 33.8 เป็น 48.9% การเพิ่มขึ้นของพรรคปวงชนไทยกว่า 4 เท่าภายใน 1 เดือนสะท้อน “แรงส่งทางการเมืองอย่างชัดเจน” โดยเฉพาะในพื้นที่ออนไลน์–ชนชั้นแรงงาน–ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ในขณะที่ “พรรคเศรษฐกิจ” เติบโตบนฐานที่สูงเดิม ซึ่งเป็นสัญญาณของ “การขยายตัวในระดับประเทศ” ที่โดดเด่นในประเด็นความมั่นคงชายแดน ส่วนพรรคไทยก้าวใหม่ค่อย ๆ เติบโตในฐานคนรุ่นใหม่–ชนชั้นกลางเมือง ซึ่งสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของผู้นำพรรค

 

 

อย่างไรก็ตาม 3 สโลแกนที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มพรรคเปิดตัวใหม่คือ สร้างคน สร้างงาน สร้างอาชีพ – พรรคปวงชนไทย 48.5% ,เมกะโปรเจกต์ นิคมการเกษตร พลิกเศรษฐกิจ – พรรคเศรษฐกิจ 47.3% ,ก้าวใหม่ให้ไทยสตรอง – พรรคไทยก้าวใหม่ 39.6% ข้อมูลนี้ชี้ว่า ประชาชน ต้องการสโลแกนที่แก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น อาชีพ รายได้ ความมั่นคงอาหาร และการพัฒนาคน ไม่ใช่สโลแกนเชิงการเมืองแบบเดิม ๆ

ผลสำรวจนี้สะท้อนว่าโครงสร้างการเมืองไทยกำลังเคลื่อนไปสู่ความหลากหลายของนโยบาย ประชาชนไม่ได้เลือกจาก “พรรคใหญ่–พรรคเล็ก” แต่เลือกจาก ผลงานจริง ความโปร่งใส สโลแกนที่แก้ปัญหาตรงจุด ผู้นำที่น่าเชื่อถือ และความหวังใหม่ที่เป็นไปได้จริง พรรคใดสามารถเชื่อมโยง ความต้องการของประชาชน กับ การลงมือทำจริง ได้มากที่สุดพรรคนั้นจะเป็นผู้ได้เปรียบในสภาวะการแข่งขันทางการเมืองปี 2569 ที่กำลังมาถึง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

บึงกาฬ คณะทำงานจิตอาสาจัดกิจกรรมลงแขกเกี่ยวข้าว สืบสานประเพณีท้องถิ่น และขยายแหล่งเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่
ผู้เสียชีวิตน้ำท่วมเวียดนามพุ่งแตะ 90 ราย
ราชกิจจาฯ ประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้ง 20 กรรมการ มหาเถรสมาคม
โพลเผย ปชช.จดจำผลงานภูมิใจไทยมากสุด
ไม่รอด! ตร.รวบแก๊งสแกมเมอร์ หลอก "นักศึกษา" ม.ดัง วัย 19 ปี ทุบตู้เซฟแม่ สูญเงิน 10 ล้านบาท พบมีคนไทย-จีนร่วมก๊วน
"อนุทิน" มั่นใจกระแสพรรคภท.สู้เลือกตั้ง เชื่อ "สนธยา" ร่วมงานไม่มีปัญหาโควตา คุย "สุชาติ" ลงตัว ลั่นสัมพันธ์ "วราวุธ" เหมือนพี่น้องคลานตามกันมา

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​