“DSI” จ่อรับคดีลวงเด็กหญิงไทยวัย 12 ปี ค้าประเวณีในญี่ปุ่นเป็นคดีพิเศษ

"DSI" จ่อรับคดีลวงเด็กหญิงไทยวัย 12 ปี ค้าประเวณีในญี่ปุ่นเป็นคดีพิเศษ

จากกรณีสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งในญี่ปุ่น รายงานตรงกันว่า เมื่อกลางเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา มีเด็กหญิงไทยอายุ 12 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ด้วยตนเองที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองว่า “ถูกบังคับให้ทำงานในร้านนวด” ตำรวจจึงสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัย ผู้จัดการร้านนวดชาวญี่ปุ่น และนำไปสู่การสืบสวนเรื่องการค้ามนุษย์ อย่างไรก็ดี เบื้องต้นพบว่าบุคคลที่ชักชวนหลอกลวงเด็กหญิงไทยรายนี้มาทำงานร้านนวดชื่อ Relax Time ซึ่งเป็นห้องเช่าในอาคาร อยู่ในเขตบุงเคียว กรุงโตเกียว ใกล้กับย่านอุเอโนะ คือ แม่ของเด็กหญิงเอง โดยเด็กหญิงถูกสอนวิธีการนวดและให้บริการทางเพศ ก่อนถูกทิ้งไว้คนเดียวที่ญี่ปุ่น ถูกบังคับให้ทำงาน พักอาศัยในห้องเช่าของร้าน นอนพื้นในห้องครัว และได้รับเงินเพียงเล็กน้อยเป็นค่าอาหาร ท้ายสุดแม่ของเด็กหญิงอ้างว่าจะกลับมารับ แต่ก็ได้ทิ้งลูกสาวไว้ที่ญี่ปุ่นและตัวเองหนีกลับประเทศไทยในช่วงกลางเดือน ก.ค. กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 4 พ.ย. เจ้าหน้าที่ของประเทศญี่ปุ่นได้เข้าจับกุมร้านนวดและนำไปสู่การสืบสวนต่อไป ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และในฐานะโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงไทยวัย 12 ปี ในประเทศญี่ปุ่น ตนได้มอบหมายให้กองคดีการค้ามนุษย์ ดำเนินการรับไว้สืบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและขยายผลดูเรื่องการกระทำความผิด “ฐานค้ามนุษย์ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม“ เพื่อจะได้เสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณาอนุมัติให้ทำการสอบสวนเป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ต่อไป แต่ระหว่างนี้ที่เป็นการสืบสวน ดีเอสไอจะได้บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน ได้แก่ นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขาฯ รมว.พม. เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เครือข่ายทีมงาน/มูลนิธิ/สมาคม/NGO ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อดูข้อมูลพฤติการณ์ที่เกิดขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการจะพิจารณาฐานความผิดค้ามนุษย์นั้น ดีเอสไอจะต้องสืบสวนก่อนว่ามีการค้ามนุษย์หรือไม่ เช่น มีลักษณะการเป็นธุระจัดหาหรือไม่ เพราะต้องขยายประเด็นว่าแม่ของเด็กมีเจตนาจะนำลูกสาวไปค้าประเวณีเด็กหรือไม่ และดำเนินการเพียงคนเดียว หรือมีการสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดค้ามนุษย์หรือไม่ ซึ่งดีเอสไอจะไม่เจาะจงแค่ในส่วนของแม่เด็กเท่านั้น แต่เราจะดูบริบทภาพรวมทั้งหมด และมีการได้รับเงินจากการนำเอาเด็กไปค้าประเวณีหรือไม่ นอกจากนี้ ในส่วนของการสอบถามข้อมูลจากเด็กหญิง ด้วยความที่ผู้เสียหายเป็นเด็กวัยเพียง 12 ปี หากหน่วยงานในพื้นที่ได้มีการสอบปากคำตามกระบวนการเรียบร้อยแล้ว และบันทึกผลการสอบปากคำครบถ้วนทุกประเด็น ดีเอสไอก็ไม่มีความจำเป็นต้องสอบปากคำเด็กซ้ำสอง ทั้งนี้ เมื่อมีความชัดเจนในส่วนของคำให้การ พยานหลักฐานบ่งชี้ถึงการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์แล้ว ก็จะได้เสนออธิบดีฯ รับเป็นคดีพิเศษ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนออกหมายเรียกผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหาการกระทำความผิดตามลำดับต่อไป

อนึ่ง ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ขอแจ้งให้ประชาชนทราบว่า การเป็นธุระจัดหาหรือนำเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี มาค้าประเวณีหรือให้บริการทางเพศ ไม่ว่าเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม เป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ภูเก็ตจัดสัมมนา “วันผังเมืองโลก 2568” ผลักดันแนวคิด “City in Nature for Climate Change”
"บิ๊กต่าย" ยันไม่หนักใจ "บิ๊กโจ๊ก-อัจฉริยะ" เดินหน้าแฉวงการตร.โยงเครือข่ายพนันออนไลน์ ย้ำเดินหน้าตรวจสอบเอาผิด ปัดโยกย้ายช่วยเพื่อนร่วมรุ่นได้ดี
"ธรรมนัส" มั่นใจรับมือพายุ "คัลแมกี" พร้อมสั่งกรมชลประทาน - สทนช. เร่งระบายน้ำ - เฝ้าระวัง 3 พื้นที่ ย้ำดูพร่องน้ำ กำจัดสิ่งกีดขวาง
ผบช.ภ.3 ขึ้นรับโล่เชิดชูเกียรติจาก ผบ.ตร. ย้ำผลงานกวาดล้างอาชญากรรมโดดเด่นระดับประเทศ
มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี เปิดงานนวัตกรรมพลิกวิถีตะวันตก ประจำปี 2568
ทหารล้มป่วยหลังได้รับพัสดุต้องสงสัยที่ฐานทัพสหรัฐ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​