“ผมได้รับข้อมูลว่า มีคนต่างชาติ ที่เป็นแรงงานในกลุ่ม non-B เดินทางไปออกใบอนุญาตทำงานที่สมุทรปราการ ผ่านระบบ e-WorkPermit เพียงลำพังโดยไม่มีคนไทยไปด้วย แต่ก็สามารถออกใบอนุญาตทำงานผ่านระบบนี้ได้ โดยใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่อยู่หน้างานได้ขอถ่ายคลิปวิดีโอ และขอสัมภาษณ์ถึงความรู้สึกในการใช้ระบบ e-WorkPermit เอาไว้ ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า e-WorkPermit เป็นระบบที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว รวมทั้งเจ้าหน้าที่ก็ยังมีท่าทีที่เป็นมิตรอีกด้วย”

นายชัยรัตน์ กล่าวอีกว่า สำหรับคนต่างด้าว นายจ้าง บริษัทนำเข้าคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศ (บนจ.) ผู้ดำเนินการแทน รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและมูลนิธิ สามารถใช้ระบบ e-Work Permit ได้ตามขั้นตอนที่ระบุไว้ แต่หากมีปัญหา ไม่สามารถดำเนินการผ่านระบบได้ ก็สามารถขอคำแนะนำ หรือขอรับข้อมูลเพิ่มเติมได้จากศูนย์บริการใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าว ที่มีอยู่ 40 แห่งทั่วประเทศ คือ ในกรุงเทพมหานคร 7 แห่ง ในต่างจังหวัด 33 แห่ง รวมทั้งศูนย์แรกรับเข้าทำงานและสิ้นสุดการจ้าง (ศูนย์ชายแดน) 5 แห่ง ตลอดจน รถโมบาย ซึ่งเป็นหน่วยบริการเคลื่อนที่อีก 8 หน่วย ที่พร้อมเดินทางไปให้บริการในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ได้รับการร้องขออย่างทั่วถึง โดยทั้งหมดพร้อมอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน ระบบ e-Work Permit ทุกท่าน

ทั้งนี้ โครงการจ้างเหมาเอกชนผลิตใบอนุญาตทำงาน ให้บริการรับคำขอ และการแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว (Outsourcing Service) ของกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ภายใต้ระบบ e-WorkPermit นี้ จะช่วยลดขั้นตอน และระยะเวลาดำเนินการ ทำให้การยื่นขอใบอนุญาตทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ระบบ e-work permit ยังรองรับการยืนยันอัตลักษณ์บุคคลด้วยการบันทึกลายนิ้วมือและสแกนม่านตา เพื่อสร้างความมั่นใจในความถูกต้องและโปร่งใสอีกด้วย

ดังนั้นจากเดิมที่ต้องใช้เวลาประมาณ 3 วัน แต่ระบบ e-WorkPermit จะช่วยลดเวลาลงเหลือเพียงไม่ถึงชั่วโมงกรณีเอกสารครบถ้วน โดยผู้ประกอบการและคนต่างด้าวสามารถยื่นคำขอผ่านช่องทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ผู้ขอรับใบอนุญาตได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น รวมถึงยังช่วยลดต้นทุนในการติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐในระยะยาว ตามที่ นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เคยกล่าวเอาไว้อีกด้วย