AFP และเวียดนาม เอ็กซ์เพรสรายงานว่าเมื่อเช้าที่ผ่านมา(พฤหัสที่ 6 พย.)
ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ผู้นำฟิลิปปินส์ได้ประกาศเขตพิบัติทั่วประเทศ หลังยอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นคัลแมกีพุ่งขึ้นเป็นอย่างน้อย 142 คน และสูญหาย 127 คน ซึ่งเป็นตัวเลขล่าสุดในวันนี้
อิทธิพลของไต้ฝุ่นคัลแมกีทำให้เกิดฝนตกหนัก และน้ำท่วมฉับพลันสร้างความเสียหายอย่างหนักและเป็นวงกว้างที่จังหวัดเซบูและหมู่เกาะเนกรอส ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์เมื่อเช้ามืดของวันอังคารที่ผ่านมา นับเป็นไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดในปี 2568 และทำให้ประชาชนกว่า 5 แสนคนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น
การประกาศภัยพิบัติจะช่วยให้หน่วยงานรัฐเข้าถึงงบฉุกเฉินและสามารถส่งความช่วยเหลือไปย้งผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้มาร์กอสกล่าวว่าเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือพายุฟงวอง พายุอีกลูกที่กำลังมุ่งหน้าเข้าฟิลิปปินส์ คาดจะพัดขึ้นฝั่งที่เกาะลูซอนในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ล่าสุดไต้ฝุ่นคัลแมกีได้เคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์แล้วเมื่อเช้าที่ผานมา โดยมุ่งหน้าไปทางเวียดนาม คาดว่าจะพัดขึ้นฝึ่งตอนกลางของเวียดนามกลางดึกคืนนี้ (พฤหัสที่ 6 พย.) สำนักพยากรณ์อากาศเวียดนามได้ประกาศเตือนว่าไต้ฝุ่นคัลแมกีได้ทวีความแรงขึ้นเป็น 183 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะทำให้เกิดคลื่นสูง 8 เมตร
ด้านรองนายกรัฐมนตรีเจิ่น ฮง ฮา ของเวียดนามได้ออกแถลงการณ์เตือนประชาชนให้ตื่นตัวและตระหนักถึงอันตราย ชี้ไต้ฝุ่นลูกนี้ไม่ใช่พายุธรรมดา ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้สั่งอพยพประชาชนหลายพันคนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่ง รวมทั้งตระเวนเคาะประตูตามบ้านเพื่อเตือนให้อพยพ โดยคาดว่าพื้นที่ที่ไต้ฝุ่นคัลแมกีจะพัดขึ้นฝั่งอยู่ระหว่างจังหวัดกว่างหงายและซาลาย
นอกจากนี้สำนักงานการบินพลเรือนเวียดนามก็สั่งระงับเที่ยวบินที่สนามบิน 6 แห่งในเขตภาคกลางเป็นการชั่วคราว มีผลตั้งแต่บ่ายวันนี้
ทั้งนี้คาดว่าไต้ฝุ่นคัลแมกีจะเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ด้านในของเวียดนามในเวลา 4 นาฬิกาของเช้าวันศุกร์ โดยจะเคลื่อนตัวผ่านประเทศลาวและคาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นและหย่อมความกดอากาศต่ำขณะมุ่งหน้าเข้าสู่ภาคตะวันออกของประเทศไทย

