AFP และเวียดนาม เอ็กซ์เพรสรายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผยว่ายอดผู้ชีวิตจากเหตุน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ในหลายจังหวัดภาคกลางรวมทั้งเมืองเว้, ฮอยอัน, ดานัง, เลิมด่งและกว๋างจิ ซึ่งเป็นทั้งมรดกโลกและเมืองท่องเที่ยวสำคัญของเวียดนามพุ่งแตะ 40 คนแล้วในวันนี้ (อังคารที่ 4 พย.) นอกจากนี้ยังมีผู้สูญหายอีก 6 คน
พื้นที่ภาคกลางของเวียดนามเผชิญฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้น้ำในแม่น้ำไหลทะลักล้นฝั่งเปลี่ยนเมืองทั้งเมืองให้กลายเป็นแม่น้ำ
อย่างไรก็ตาม สำนักพยากรณ์อากาศเวียดนามออกประกาศเตือนในวันนี้ว่า ไต้ฝุ่นคัลแมกีซึ่งพัดถล่มฟิลิปปินส์เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา กำลังมุ่งหน้ามาทางเวียดนาม ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าพายุคัลแมกีมีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงหลังพัดผ่านฟิลิปปินส์ แต่จากนั้นก็คาดว่าจะทวีกำลังขึ้นอีกขณะเคลื่อนตัวผ่านทะเลตะวันออกในวันพรุ่งนี้ (พุธที่ 5 พย.) ก่อนมุ่งหน้าเข้าใกล้เวียดนาม ทั้งนี้คาดว่าไต้ฝุ่นคัลแมกีจะพัดฝั่งเวียดนามที่ช่วงกลางดึกของวันพฤหัสบดีต่อเช้าวันศุกร์ระหว่างจังหวัดกว๋างหงายและดั๊กลักที่บริเวณภาคกลางตอนล่าง ด้วยความเร็วสูงสุด 166 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
รายงานเผยว่าอาคารบ้านเรือนเกือบ 8 หมื่นหลังยังคงจมอยู่ใต้น้ำ ขณะที่พื้นที่เกษตรมากกว่า 6 หมื่น 2 พัน 500 ไร่ถูกทำลายและปศุสัตว์ล้มตายกว่า 6 หมื่น 8 พันตัว ซึ่งปกติเวียดนามจะเจอพายุหรือไต้ฝุ่นราวๆ 10 ลูกต่อปี แต่ไต้ฝุ่นคัลแมกีจะเป็นพายุลูกที่ 13 ของปีนี้ (2568)

