CNN และ รอยเตอร์สรายงานว่าเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันของผุ้นำสหรัฐได้ลงจอดที่สนามบินนานาชาติปูซาน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา( พุธที่ 29 ตค.) ท่ามกลางการต้อนรับด้วยพรมแดงและวงดุริยางศ์ของเกาหลีใต้ที่บรรเลงเพลง YMCA เพลงโปรดของทรัมป์ ก่อนผู้นำสหรัฐจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ต่อไปยังเมืองคยองจู ซึ่งจะใช้เป็นที่จัดประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคระหว่าง 31 ตุลาคมถึง 1 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเกาหลีใต้ถือเป็นประเทศที่สามหรือประเทศสุดท้ายของทริปเยือนเอเชียของทรัมป์ในครั้งนี้
ขณะอยู่บนเครื่อง ผู้สื่อข่าวถามความเห็นทรัมป์กรณีเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธร่อนเมื่อวานนี้ เพื่อเป็นการส่งสารคัดค้านการเยือนคาบสมุทรเกาหลีของผู้นำสหรัฐ ทรัมป์บอกว่าเขาไม่สนใจ แต่จะมุ่งให้ความสำคัญกับการพบปะสีจิ้นผิง ผู้นำชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับสองของโลกมากกว่า
ทรัมป์บอกว่าความสัมพันธ์กับจีนขณะนี้อยุ่ในขั้นดีมาก เชื่อว่าการพบกันครั้งนี้จะเกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อสหรัฐและประชาคมโลก โดยการพบกันครั้งนี้คาดว่าทรัมป์จะประกาศลดภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากจีน แลกกับคำสัญญาของจีนที่จะกวาดล้างขบวนการส่งสารเคมีตั้งต้นในการผลิตเฟนทานิลไปยังสหรัฐ ขณะที่จีนจะกลับไปซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐอีกครั้ง คาดว่าตลาดหุ้นตลาดทุนทั่วโลกจะขานรับข่าวดีนี้ถ้วนหน้า
ขณะที่การเจรจาการค้าสหรัฐ-เกาหลีใต้ยังไม่คืบหน้า โดยก่อนหน้านี้เกาหลีใต้รับปากจะทุ่มงบ 3 แสน 5 หมื่นล้านดอลล่าร์ หรือกว่า 11 ล้านล้านบาทเพื่อลงทุนในสหรัฐแลกกับการลดกำแพงภาษีภายใต้มาตรการภาษีตอบโต้ของทรัมป์ แต่ปรากฎว่าเกาหลีใต้ไม่มีงบเพียงพอขนาดนั้น จึงได้เสนอการลงทุนแบบเป็นแบ่งเป็นเฟสต่างๆ ผสมกับนโยบายอื่นๆแทน ซึ่งโช ฮยอน รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ หวังว่า การประนีประนอมในนาทีสุดท้ายของสหรัฐ อาจนำไปสู่ข้อตกลงกันได้
ทรัมป์ยังแสดงความหวังที่จะได้พบกับผู้นำคิมจองอึนของเกาหลีเหนือ ระหว่างการเยือนเกาหลีใต้ครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้รัฐบาลเกาหลีเหนือยังคงเงียบกริบและยังไม่มีการตอบรับอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ทรัมป์จะพบกับประธานาธิบดีอี แจ-มยองผู้นำเกาหลีใต้ในวันนี้ เพื่อหารือเรื่องประเด็นการค้าที่ยังค้างคา และจะพบกับสีในวันพรุ่งนี้ แต่จะไม่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคในช่วงปลายสัปดาห์ ซึ่งคริสโตเฟอร์ พาดิลลาที่ปรึกษาอาวุโสของบริษัทที่ปรึกษาบรุนส์วิก กรุ๊ป ที่กรุงวอชิงตันกล่าวว่าทรัมป์ไม่ชอบเข้าร่วมการประชุมระดับนานาชาติ แต่ชอบการพบปะแบบตัวต่อตัวกับผู้นำคนสำคัญมากกว่า
ขณะที่ประเด็นไต้หวัน ทรัมป์ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่ายังไม่รู้เลยว่าจะหยิบยกเรื่องนี้มาหารือกับสีหรือเปล่า คาดว่าจะมุ่งพูดคุยเรื่องประเด็นการค้าเป็นหลัก

