เริ่มแล้ว! ลงทะเบียนร้านค้า “คนละครึ่งพลัส” วันแรกคึกคัก “เอกนิติ” เชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก คาดเงินสะพัดกว่า 8 หมื่นล้าน

เริ่มแล้ว ลงทะเบียนร้านค้า ร่วมคนละครึ่งพลัส วันแรก คึกคัก “เอกนิติ” เชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก คาดเงินสะพัดกว่า 8 หมื่นล้านบาท

เริ่มแล้ว! ลงทะเบียนร้านค้า “คนละครึ่งพลัส” วันแรกคึกคัก “เอกนิติ” เชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก คาดเงินสะพัดกว่า 8 หมื่นล้าน – Top News รายงาน

เอกนิติ

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2568 นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่เยี่ยมชมการเปิดลงทะเบียนวันแรกของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส ณ ตลาดนัดหลังกระทรวงการคลัง

นายเอกนิติ กล่าวหลังจากเดินประชาสัมพันธ์โครงการคนละครึ่งพลัสให้แก่ร้านค้า ว่า วันนี้เป็นวันแรกที่เปิดลงทะเบียน ร้านค้าเข้าร่วมคนละครึ่งพลัสเป็นวันแรก โดยร้านค้าสามารถสมัครเข้าร่วมได้ผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ได้ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมถึง 19 ธันวาคม 2568

ส่วนร้านค้าที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟสที่ผ่านมาแล้ว สามารถกดปุ่มยอมรับเงื่อนไขในแอปฯ ถุงเงินได้ทันที ส่วนร้านค้าที่ยังไม่เคยร่วมโครงการคนละครึ่งเมื่อในอดีต สามารถลงทะเบียนได้ใช้บัตรประชาชน และรูปถ่ายร้านค้าเพื่อยืนยันว่ามีการค้าขายจริง

โดยหากเป็นร้านค้าใน กทม. สามารถยืนยันตัวตนได้ที่เขต ส่วนร้านค้าต่างจังหวัดยืนยันตัวตนที่กระทรวงมหาดไทย หลังจากนั้นนำหลักฐานไปที่ธนาคารกรุงไทย เพื่อให้ธนาคารกรุงไทยยืนยันว่ามีตัวตนจริง มีร้านค้าจริง ซึ่งจะใช้เวลาตรวจสอบ 3 วัน ชื่อเจ้าของร้านค้าจะปรากฏในแอปฯ ถุงเงิน และร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสได้ทันที

อย่างไรก็ตาม เราต้องการให้ร้านค้ารายย่อยหรือรายเล็กเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสให้มากที่สุด เพราะจะช่วยทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ส่วนทางฝั่งประชาชนจะเปิดให้ลงทะเบียนสัปดาห์ถัดไป คือ วันที่ 20 ตุลาคมเป็นต้นไป

“ผมไปเดินตลาดมา หลายร้านค้าก็บอกว่าได้เริ่มลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งพลัสแล้ว ซึ่งร้านค้าที่เคยอยู่ในระบบอยู่แล้วก็ลงทะเบียนง่ายมาก ส่วนร้านค้าที่ยังไม่อยู่ ก็สามารถไปดาวน์โหลดข้อมูลและไปสมัคร คนละครึ่งพลัส.com ส่วนคนที่ติดปัญหาให้เข้าไปธนาคารกรุงไทย ไปที่กระทรวงมหาดไทย และหน่วยราชการต่างๆ ก็พร้อมจะช่วย ตรงนี้ก็จะทําให้ร้านค้าเข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น”

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม คาดว่าโครงการนี้จะก่อให้เกิดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจกว่า 88,000 ล้านบาท โดยส่วนแรกมาจากงบประมาณรัฐบาล 44, 000 ล้านบาท และ งบใช้จ่ายจากประชาชนอีก 44, 000 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากข้อมูลคนละครึ่งเดิม มีร้านค้าอยู่ในระบบแล้ว 900,000 ร้านค้าแต่ร้านที่ยังดำเนินการต่อเนื่องมีเหลือประมาณเกือบ 100,000 ร้านค้าเท่านั้น ส่วนใครที่ยังไม่อยู่สามารถลงทะเบียนได้ง่ายคาดว่าครั้งนี้จะมีร้านค้าเข้าร่วมไม่ต่างจากเดิม

“ครั้งนี้เราจะพลัสในส่วนร้านค้า ครั้งที่แล้วจะเป็นบุคคลธรรมดา แต่ครั้งนี้เราจะมีนิติบุคคล รายเล็กรายย่อย เราไม่อยากให้รายใหญ่กลับมาอยากให้รายเล็กรายย่อยคึกคัก”

นอกจากนี้ แอปฯถุงเงินจะมีการสอนร้านค้าทำบัญชีได้ง่าย เพื่อทำให้ธนาคารหลายแห่งได้เห็นและปล่อยสินเชื่อได้ง่าย พ่อค้าแม่ค้าจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องกู้หนี้นอกระบบและขาดสภาพคล่อง แต่ต้องทำบัญชีให้ถูกต้อง เพื่อทำให้ร้านค้าได้ประโยชน์
สำหรับโครงการคนละครึ่งพลัสข้อมูลเราเป็นระบบ ยืนยัน จะไม่ส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล เนื่องจากเป็นข้อมูลระบบปิด ส่วนเรื่องการเสียภาษีเป็นหน้าที่ของคนไทยที่มีรายได้ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล แต่โครงการคนละครึ่งพลัสไว้ใจได้ว่าไม่มีใครเห็นข้อมูล

“ต้องบอกว่าร้านค้าที่มียอดขายมากขึ้น อย่ากังวลเรื่องจ่ายภาษี เพราะว่าจริงๆ ยอดขายมากขึ้น รวยขึ้น เมื่อรวยขึ้น เรื่องระบบภาษีจริงๆ แล้วผมก็อยากให้ประชาชนคำนึงว่าเป็นหน้าที่ของคนไทย อย่าง โครงการคนละครึ่งพลัสครั้งนี้ ในส่วนของประชาชนคนที่อยู่ในระบบภาษี 11 กว่าล้านคนจะได้เงินในโครงการมากกว่า เพื่อทําให้เห็นว่าเขาเป็นผู้ที่เสียภาษี โครงการคนละครึ่งพลัสก็จะมาจากเงินภาษีของพวกเรา ร้านค้าทั้งหลายก็อย่าไปกังวลเลย”

สำหรับกลุ่มรถขนส่งสาธารณะ เช่น จักรยานยนต์รับจ้าง ที่ยังสับสนและไม่เข้าใจขั้นตอนการลงทะเบียน ย้ำว่าไม่ต้องกังวล หากมีใบขับขี่สาธารณะที่ถูกต้องก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้

 

 

ส่วนแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการฯ นายเอกนิติระบุว่า เบื้องต้นอยากให้เป็นสินค้าประเภทอาหารสด ฟู๊ดเดลิเวอรี่ ซึ่งขณะนี้มี 4-5 แพลตฟอร์มที่ได้ร่วมหารือแล้ว และจะลดค่าส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่น (ค่า GP) ให้เป็นพิเศษ

“คาดหวังว่าเมื่อเริ่มใช้วันที่ 29 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568 เชื่อว่าจะทำให้เศรษฐกิจคึกคัก พ่อค้าแม่ค้าก็บอกเราเองว่ารู้สึกว่าคึกคักมากขึ้น นอกจากช่วยจับจ่ายใช้สอย ช่วยให้คุณมีทักษะขายของออนไลน์มากขึ้น มีทักษะทำบัญชีให้ถูกต้อง เผื่อจะได้กู้เงินที่ถูกลง สุดท้ายเชื่อว่าจะทำให้เศรษฐกิจฟื้นจากติดหล่มในไตรมาสที่ 4”

 

ขณะที่พ่อค้า -แม่ค้า ตลาดนัดหลังกระทรวงการคลัง ระบุว่า เห็นด้วยที่รัฐบาลมีโครงการคนละครึ่งพลัสเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเหลือประชาชน โดยมองว่า โครงการนี้ เป็นโครงการที่ช่วยทำให้การใช้จ่ายเกิดขึ้นจริง และพ่อค้า – แม่ค้า ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงๆ เมื่อเทียบกับโครงการแจกเงินอื่นๆ

 

สำหรับบรรยากาศตลาดนัดหลังกระทรวงการคลังมีความคึกคักมากเป็นพิเศษ หลังการลงพื้นที่แนะนำร้านค้าเพื่อเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส โดยมีพ่อค้า แม่ค้า ที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส สอบถามขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงไทย ที่ลงพื้นที่ และมาคอยให้คำแนะนำและช่วยพ่อค้าแม่ค้า สมัครแอปพลิเคชั่นเข้าร่วมโครงการอีกด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กรมโยธาฯ" เดินหน้าพัฒนา "หนองน้ำพุ" รอบอุทยานถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน ต่อยอดเป็นสวนสาธารณะ แลนด์มาร์กใหม่เชียงราย
“มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์” ส่งต่อความห่วงใย มอบสิ่งของจำเป็น สร้างขวัญกำลังใจ ทหารแนวหน้า ชายแดนไทย–กัมพูชา
สมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ เดินทางกว่า 200 โล เพื่อมอบสิ่งของและความสุข ให้กับ นักเรียน โรงเรียน ตชด.
นครสวรรค์ น้ำท่วมบ้านทรุดเอียง หวั่นพังกลางฤดูน้ำหลาก
เขมรฉาวโฉ่! FBI เอาจริง ประกาศเดินหน้าปราบโกงทางการเงิน "คดีเจ้าพ่อสแกมเมอร์" ครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์
ผบ.มทบ.39 ทำทันที ลงพื้นที่บ้านน้ำปาด หลังถูกน้ำป่าถล่มหนัก

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​