“ทวี” แขวะรัฐบาลทำ MOA หนุนแก้ รธน. ไม่แตะหมวด 1-2 โยนภาระรัฐบาลหน้าร่างเสร็จยุบสภาฯทันที

ทวี หนุนร่างแก้ไข รธน. 3 พรรค แต่ต้องไม่แตะหมวด 1 และ 2 เพื่อเปิดประตูไปสู่การทำฉบับใหม่ ลั่น รบ.หน้าต้องอยู่ไม่นาน ร่าง รธน.เสร็จควรยุบสภาทันที บอกรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด ไม่ใช่ลอกเลียนแบบต่างประเทศแต่ต้อง ตอบสนองบริบทคนไทย

“ทวี” แขวะรัฐบาลทำ MOA หนุนแก้ รธน. ไม่แตะหมวด 1-2 โยนภาระรัฐบาลหน้าร่างเสร็จยุบสภาฯทันที – Top News รายงาน

 

ทวี

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 เวลา 11.55 น. ที่ประชุมรัฐสภา ในการประชุมพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 เพื่อเปิดทางให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในวาระแรก โดยจะมีการประชุมระหว่างวันที่ 14-15 ตุลาคม 2568

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชาติ ได้ลุกขึ้นอภิปรายสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่พ.ศ.. ทาง 3 ร่างเพื่อให้นำไปสู่ การเปิดประตู จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ต้องให้ประชาชนออกเสียงประชามติให้ความเห็นชอบว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่

ทั้งนี้การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องเป็นไปตามบทบัญญัติหมวดที่ 15 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญซึ่งรัฐสภามีอำนาจแก้ไขเพิ่มเติมได้แต่รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรงและการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่จะต้องออกเสียงประชามติจำนวน 3 ครั้ง ซึ่งการออกเสียงประชามติครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 อาจดำเนินการพร้อมกันในคราวเดียวกันได้ และศาลรัฐธรรมนูญได้ยืนยันในระบอบประชาธิปไตยว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย วันนี้รัฐสภาจะทำภารกิจสำคัญในประวัติศาสตร์ การเมืองไทย โดยร่วมกันริเริ่มในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งหาก 4 เดือนมีการยุบสภา เกิดการเลือกตั้งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้น ถึงเวลานั้นร่างรัฐธรรมนูญ จะแล้วเสร็จหรือไม่

พันตำรวจเอกทวี กล่าวอีกว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ในประเทศไทยที่จะมีประชาธิปไตยโดยตรง โดย ทำประชามติ ซึ่งการทำประชามติคือการสอบถามเจ้าของอำนาจอธิปไตยโดยตรง ซึ่งต้องเป็นคำถามที่ไม่ซับซ้อนหรือเป็นประเด็นในคำถามที่ไม่ควรจัดให้เกิดความสับสน ที่ผ่านมาประเทศไทยผ่านการทำประชามติ ในการจัดทำรัฐธรรมนูญมา 2 ครั้ง คือในปี 2550 แต่รัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติก็มีอายุเพียง 6 ปีกว่า โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาจัดทำรัฐประหาร ก็มาฉีกรัฐธรรมนูญ และปี 2560 ก็มีการทำประชามติ แต่รัฐธรรมนูญปี 2560 ที่มีการจัดทำใหม่ครั้งนี้ยังไม่มีใครยึดอำนาจเพื่อฉัฝีกรัฐธรรมนูญตรงนี้ถือว่าประเทศไทย เดินทางมาถึงพลวัฒน์ที่สำคัญอย่างยิ่ง ตนจึงอยากให้เพื่อนสมาชิกรัฐสภาเกิดความภูมิใจ

และรัฐธรรมนูญปี 2560 ใช้มาทั้งหมด 8 ปีผ่านการเลือกตั้งมาทั้งหมด 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 พรรคพลังประชารัฐที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าคณะรัฐประหารยึด อำนาจเป็นพรรคที่ได้อันดับ 2 ได้เป็นนายกรัฐมนตรี และพลเอกประยุทธ์สามารถอยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ได้ 4 ปีอย่างเหมือนว่าไม่มีอะไรสะทกสะท้าน

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อมาการเลือกตั้งครั้งที่ 2 ในเดือนพฤษภาคมปี 2566 พรรคที่ได้อันดับ 1 คือพรรคอนาคตใหม่ หรือพรรคประชาชนขณะนี้ ไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคอันดับ 2 ได้เป็นรัฐบาล นี่คือวิกฤตที่ไม่สามารถที่จะหาคำตอบอะไรได้ซึ่งพบว่า การเลือกตั้งครั้งที่ 2 ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 มีนายกรัฐมนตรีไปแล้ว 3 คน 2 คนแรกได้ถูกสว. ในรัฐสภายื่นต่อ ศาลรัฐธรรมนูญและถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้สิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่

ดังนั้นในวันนี้ตนจึงคิดว่า ได้มีการทำลายหลักประชาธิปไตยอย่างมากเพราะทุกคน มีความ เสี่ยงในการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ โดยปรากฏการณ์ MOA ที่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย แบบพิลึก โดยผู้ที่เป็นฝ่ายค้านเสียงข้างมากก็มีเจตนา ที่ไม่ต้องการให้รัฐบาลนี้ไปบริหารประเทศ แต่เลือกมาเพื่อแก้รัฐธรรมนูญวันนี้ เช่นกัน วันนี้รัฐบาลปัจจุบันก็ถือว่ามีบุญหล่นทับ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เป็นรัฐมนตรี ซึ่งตนจะขอบอกว่ารัฐบาลชุดนี้ เป็นรัฐบาลภายใต้อานัดมอบหมาย เนื่องจากรัฐบาลนี้มีคนเข้าใจว่าจะมีความสนิทกับสว.ประมาณ 138 คนหรือ 2 ใน 3 ของ 200 คนในการแก้รัฐธรรมนูญตามมาตรา 256 ที่จำเป็นจะต้องมีเสียงสว. 1 ใน 3 หรือ 66 คน ดังนั้นในวันนี้จึงถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ตนได้ยินเพื่อนสว.ว่า เราไม่ควรคืนทางตันไปให้ประชาชนแต่เราอยากมอบมรดกที่ดีให้กลับคืนสู่ประชาชน

 

 

พันตำรวจเอกทวี กล่าวอีกว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มีโครงสร้างที่ตน มองว่ามากเกินไป ต่อมาก็น้อยเกินไป และต่อมาก็ไม่มีเลย ซึ่งที่มากเกินไปก็หนีไม่พ้น รัฐธรรมนูญในปี 60 มีรัฐอิสระ ซึ่งที่มีมากเกินไป ที่น้อยเกินไปคืออำนาจของประชาชน อำนาจของพรรคการเมือง รัฐบาลเสียงข้างมากถูกจำกัด ไม่สามารถที่จะผลักดันนโยบายที่ไปหาเสียงไว้กับประชาชนได้ และที่ไม่มีเลยคือไม่มีกลไกของรัฐในการตรวจสอบกองทัพ องค์กรอิสระ หรือการปฏิรูปศาล และผลที่ตามมาคือทำให้ประเทศอยู่ภายใต้กติกาที่ไม่สมดุล ระหว่างอำนาจของประชาชนและอำนาจของชนชั้นนำ ประชาชนจึงเกิดความรู้สึกว่าการเมืองการปกครองเป็นเรื่องของชนชั้นนำและองค์กรอิสระไม่ใช่เรื่องของประชาชนเสียงของประชาชนจะมีความหมายแค่วันเลือกตั้ง เสียงของตนเองไม่มีความหมายทั้งด้านสิทธิเสรีภาพ ด้านความเสมอภาค ความยุติธรรมและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และในเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีของไทยก็ถูก สว.ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ จนทำให้ถูกตัดสิทธิ์ เราจำเป็นต้องคืนความสมดุลให้กับ ประชาชน

ซึ่งมองว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ขึ้นมาก็ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างร้ายแรงได้แก่ผลกระทบด้านศาสนา ด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุขด้านเกษตร ด้านการปกครองส่วนท้องถิ่น ผลระบบต่อเศรษฐกิจ และผลกระทบต่อการเมืองการปกครอง

ยกตัวอย่างเช่นผลกระทบด้านการศึกษาที่รัฐธรรมนูญในปี 2540 และปี 2550 ที่เขียนไว้ว่าบุคคลย่อมมีสิทธิ์เสมอกันในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไม่น้อยกว่า 12 ปีที่รัฐจะต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่พบว่ารัฐธรรมนูญปี 60 เขียนไว้ว่า รัฐต้องดำเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลา 12 ปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบภาคบังคับซึ่งภาคบังคับก็คือมัธยมศึกษาปีที่ 3 แต่การศึกษาขั้นพื้นฐานคือมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งอย่างน้อยการศึกษาต่ำไป 3 ปีดังนั้นเราจึงพบว่าวันนี้ด้วยความที่ไม่มีสิทธิ์เสมอกัน ด้วยความไม่ทั่วถึง

 

 

ส่วนความเหลื่อมล้ำด้านการเกษตร รัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านมาเขียนไว้ว่ารัฐจะต้องอุ้มชู เกษตรกร รับรองผลผลิตที่ต้องขายให้ได้ราคาสูง และลดจำนวน แต่ฉบับปัจจุบัน ให้เกษตรกร ไปขายในตลาดเอง และที่ซ้ำร้ายเจ็บปวดที่สุดเกษตรกรไม่มีที่ทำกินจำนวน แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่เอื้อไปช่วย และในช่วงที่มีรัฐธรรมนูญตั้งแต่ ปี 62 มา มีการไปทวงคืนผืนป่า 4 หมิ่น กว่าคดี จากกว่าหมื่นชุมชน

ส่วนด้านเศรษฐกิจ เรามีวินัยการเงินการคลังขึ้นมา การที่จะแสดงนโยบายและมียุทธศาสตร์ชาติจึงทำให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจตัวอย่างพบวินัยการเงินการคลังเลือกใช้กับคนไร้โอกาสคนไม่มีเงิน แต่คนที่เป็นข้าราชการเป็นนายทุนผู้มีอำนาจ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการจัดตั้งงบประมาณ หรือรายจ่ายประจำเพิ่มขึ้นแต่งบในการลงทุนน้อยลงและที่สำคัญทุกคนมีระบบ เสือนอนกินหรือสัมปทาน และบริษัทชิโนทัย ที่เป็นของนายกรัฐมนตรี ก็สามารถมีสัญญากับรัฐบาลได้ถึง 350,000 ล้านบาทซึ่งระบบนี้จึงทำให้ระบบเศรษฐกิจเติบโตได้ยาก

วันนี้เราเดินทางมาถึงจุดที่ อดีตเป็นบทเรียน ปัจจุบันและอนาคตเป็นความรับผิดชอบ เราเดินทางมาถึงการทำประชามติ การทำประชามติครั้งนี้ตนคิดว่าเป็นการทำประชามติที่จะไปสอบถามประชาชนซึ่งผู้ร่างรัฐธรรมนูญก็อยากจะทำความเข้าใจกับทั้ง 3 ร่าง ซึ่งก็ต้องดูว่าจะทำอย่างไรให้ทั้ง 3 ร่าง ไม่ให้ไปสะดุดกับคำวินิจฉัยของศาลและไม่ไปแตะหมวด 1 หมวด 2 และจะทำอย่างไรที่จะทำให้เจ้าของอำนาจอธิปไตยได้รู้ โดยเฉพาะในวาระที่ 2 ที่ต้องบอกวิธีการเนื้อหาและบอกกับประชาชนให้ชัดเจน ดังนั้นความสำคัญที่สุดกรรมาธิการที่ตั้งขึ้นมาไม่ควรใช้เวลาเกิน 45 วัน และต้องพยายามทำ เพราะไม่รู้ว่าเวลาเหลืออีกนานแค่ไหนและร่างที่ 2 ที่จะไปถามประชาชน ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์มาก

พันตำรวจเอกทวี กล่าวอีกว่า วันนี้เราต้องการรัฐธรรมนูญที่ดี ซึ่งรัฐธรรมนูญที่ดีไม่ใช่การลอกเลียนจากต่างประเทศ แต่รัฐธรรมนูญที่ดี ต้องสามารถตอบสนองบริบทของคนไทยและสามารถตอบรับความเป็นสากลได้ ซึ่งอยากจะเรียนเพื่อนสมาชิกว่าวันนี้รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดเรายังไม่ได้ร่าง และเรากำลังจะร่าง และเมื่อเรายังไม่ได้ร่าง รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดก็ยังไม่เกิด และกำลังจะเกิด ซึ่งการจะเกิดได้ก็อยู่ที่พวกเราที่จะต้องเปิดประตูและไปเชื่อมต่อให้ประชาชนและร่วมกันแสดงความเห็นและมาอยู่ในร่างรัฐธรรมนูญ และเมื่อวาระการเลือกตั้งที่จะมีหลังจากนี้ 4 เดือนจะได้สมาชิกเข้ามา รัฐบาลชุดหน้าก็ไม่ควรอยู่นาน เมื่อมีการร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วก็ควรมีการยุบสภา เพื่อให้ใช้รัฐธรรมนูญใหม่ที่เราเรียกร้องและโหยหามานาน ตนจึงขอสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญ ที่เพิ่มหมวด 15/1 ทั้ง 3 ร่าง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เกาหลีใต้แฉพลเมืองสูญหาย 80 คนในกัมพูชา
เกาหลีใต้เตรียมส่งกองกำลังพิเศษไปกัมพูชาพรุ่งนี้
เกาหลีใต้แฉสแกมเมอร์กัมพูชาทารุณเหยื่อตายวันละคน
มิสยูนิเวิร์สกัมพูชายืนยันไม่ถอนตัวประกวดที่ไทย
ภ.7 เปิด “หัวหินโมเดล” ใช้ AI รักษาความปลอดภัยรอบวังไกลกังวล
กัน จอมพลัง มอบของให้ทหาร เปิดใจ ปรับความเข้าใจการทำงานกับแม่ทัพภาคที่ 2 มีโปรเจคใหญ่ร่วมกัน ฉะนักสิทธิฯ อย่าทำตัวน้ำเต็มแก้ว น้องนำโขง 8 ขวบ เสียชีวิต ได้ไปช่วยอะไรหรือไม่

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​