“ชูศักดิ์” หวั่นแก้ร่างรธน. ไม่ทันภายใน 4 เดือน ก่อนยุบสภา ย้ำเจตนา “เพื่อไทย” ไม่แตะหมวด 1-2 ยึดอำนาจรัฐสภาฯเป็นใหญ่
ข่าวที่น่าสนใจ
14 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ชี้แจงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญพรรคเพื่อไทยว่า เหตุที่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 60 เพราะเป็นผลพวงจากการรัฐประหาร แม้จะระบุเป็นรัฐธรรมนูญปราบโกง แต่มีบทบัญญัติลงโทษนักการเมืองให้พ้นหน้าที่ไม่ชัดเจน โดยมาจากการตีความของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเอานายกฯออกจากตำแหน่ง ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญพรรคเพื่อไทย ให้มีผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ 151 คน มาจาก1 สสร. จังหวัด 100 คน มาจากการเลือกของทั้งประเทศรวม 300 คน ส่งให้รัฐสภาคัดเลือกเหลือ 100คน 2.ส.ส.ร.จากการคัดเลือก 51 คน มาจากการเสนอชื่อของสภาผู้แทนราษฎรและครม.ขณะที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ มี 27คน แบ่งเป็นเลือกจากส.ส.ร.14คน และเลือกจากผู้เชี่ยวชาญด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ 13 คน เมื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จให้ส่งมายังรัฐสภาเห็นชอบ
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า การประชุมรัฐสภาวันนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการทำ MOA กันระหว่าง 2 พรรคการเมือง ที่ให้พรรคหนึ่งดำรงตำแหน่งนายกฯ โดยมีเงื่อนไขคือการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ความจริงแล้วรัฐสภามีอายุ 4 ปี จะครบวาระในปี 2570 ขณะนี้ก็อยู่มา 2 ปีเศษ แต่ท้ายสุดก็ตกลงกันว่าจะยุบสภา ครั้งนี้เราก็ลงทุน คือเราลดอายุของสภาผู้แทนราษฎร จาก 4 ปีให้เหลือ 2 ปี เราผูกพันว่าต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยที่ก็ยังไม่รู้เลยว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่หน้าตาเป็นอย่างไร และจะทำสำเร็จหรือไม่ ที่สำคัญที่สุด เราต้องทำให้เสร็จภายใน 4 เดือน เพราะถ้าทำไม่เสร็จทันภายใน 4 เดือนนี้ ร่างรัฐธรรมนูญจะตกไป ไม่ทันกับการยุบสภาฯ
นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า จึงตั้งความหวังทั้ง 3 พรรคการเมืองต้องการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่เป็นการลงทุนมหาศาล และความสำเร็จก็ยังไม่แน่ใจ 100% ความพยายามของพรรคเพื่อไทยก็ดำเนินมาโดยตลอด อย่างในการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2550 ที่มีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า เป็นการล้มล้างการปกครอง ถือเป็นครั้งแรกที่เรานำอำนาจของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปให้องค์กรอื่นวินิจฉัย ในคดีนั้นตนเองเป็นทนายไปซักค้านเอง จนกระทั่งตุลาการคนหนึ่งต้องออกจากการทำหน้าที่ในองค์คณะ จนในที่สุดศาลก็วินิจฉัยว่าไม่ใช่การล้มล้างการปกครอง
“ขอยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีเจตนาแก้หมวด 1และหมวด2 เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 255 ระบุชัดเจนว่าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ จะกระทำมิได้ มีกำหนดไว้ชัดเจนอยู่แล้ว หวังว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของทั้ง 3 พรรค จะได้รับพิจารณาเห็นชอบในวาระรับหลักการ”นายชูศักดิ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น