ชื่นชม “ปรารถนา ดิษยทัต” รองหัวหน้าคณะผู้แทนถาวรไทยประจำยูเอ็น ลุกป้องศักดิ์ศรีไทย โต้ทูตกัมพูชา ยัน 2 หมู่บ้านเขมรอ้างสิทธิ เป็นแค่ศูนย์พักพิงไม่ใช่ให้ใครยึดครอง

ชื่นชม "ปรารถนา ดิษยทัต" รองหัวหน้าคณะผู้แทนถาวรไทยประจำยูเอ็น ลุกป้องศักดิ์ศรีไทย โต้ทูตกัมพูชา ยัน 2 หมู่บ้านเขมรอ้างสิทธิ เป็นแค่ศูนย์พักพิงไม่ใช่ให้ใครยึดครอง

11 ต.ค. 68 เพจเฟซบุ๊ก Bangkok I Love You ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า “เสียงแห่งศักดิ์ศรีไทยดังไกลถึงเจนีวา คุณปรารถนา จากไทยฟาดเขมรบนเวที UNHCR แหลก กระทรวงการต่างประเทศแสดงบทบาทเข้มแข็ง ปกป้องอธิปไตยชาติอย่างมั่นคง ในเวทีระหว่างประเทศที่นครเจนีวา ประเทศไทยแสดงให้โลกเห็นอีกครั้งว่า “เราไม่ใช่ชาติที่ยอมให้ใครดูหมิ่นได้ง่าย ๆ”

ในการประชุม ExCom (Executive Committee of the High Commissioner’s Programme) ซึ่งเป็นเวทีระดับสูงว่าด้วยการกำหนดนโยบายและงบประมาณเพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยทั่วโลก โดยเนื้อหานั้นไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองโดยตรงแต่อย่างใด แต่กลับปรากฏว่า นายดารา อิน ผู้แทนถาวรกัมพูชาประจำสหประชาชาติ ณ นคร เจนีวา ได้กล่าวโจมตีประเทศไทยด้วยถ้อยคำบิดเบือนต่อหน้าผู้แทนจากทั่วโลก

ทว่าคราวนี้…ไทยไม่ได้นิ่งเฉยอีกต่อไป

ตัวแทนประเทศไทยคุณปรารถนา ดิษยทัต รองหัวหน้าคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาติ ณ นครเจนีวา ได้ลุกขึ้นตอบโต้ทันที ด้วยถ้อยแถลงที่เฉียบขาด สุภาพ แต่หนักแน่นในหลักการ เป็น “เสียงแห่งศักดิ์ศรี” ที่ทำให้ทั้งห้องประชุมเงียบกริบ

คำตอบของไทย: สุภาพแต่เฉียบขาด

คุณปรารถนาเปิดคำกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบแต่ทรงพลังว่า “เวทีพหุภาคีเช่นนี้ ไม่ควรถูกใช้เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท็จและข้อกล่าวหาที่ปราศจากมูลเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง”

 

ข่าวที่น่าสนใจ

พร้อมยืนยันอย่างหนักแน่นว่า “หมู่บ้านที่กัมพูชาอ้างถึง ตั้งอยู่ในดินแดนของไทยโดยชอบธรรม และเกิดจากการที่ไทยเปิดพรมแดนในช่วงสงครามกลางเมือง เพื่อให้ชาวกัมพูชาหลายแสนคนเข้ามาพักพิงด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม”

ประเทศไทย ที่เคยอ้าแขนรับเพื่อนบ้านในยามยาก กลับถูกตอบแทนด้วยการกล่าวหา และการรุกล้ำซ้ำซาก คุณปรารถนาชี้อย่างชัดเจนว่า กองทัพกัมพูชาได้ “ยุยงปลุกปั่น” ให้ประชาชนของตน รวมถึงเด็ก สตรี และพระภิกษุ เข้ามาในพื้นที่ชายแดน เพื่อสร้างความตึงเครียด ซึ่งเป็น การละเมิดอธิปไตยไทยอย่างร้ายแรง

“การกระทำเช่นนี้ไม่เพียงละเมิดข้อตกลงทวิภาคี แต่ยังขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศ และหลักมนุษยธรรมที่กัมพูชาเองเป็นภาคีอยู่” ยืนยันมาตรฐานสากลในการดูแลเชลยศึก

ในประเด็น “เชลยศึก 18 นาย” คุณปรารถนาได้ย้ำว่า “บุคคลเหล่านี้ถูกจับได้ระหว่างการสู้รบที่กัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน และประเทศไทยได้ดูแลพวกเขาอย่างปลอดภัยตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ”

โดยมี คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) เข้าตรวจเยี่ยมเป็นประจำ และอำนวยความสะดวกให้ติดต่อครอบครัวได้ครบถ้วน การควบคุมตัวนั้นเป็นเพียงมาตรการป้องกันไม่ให้กลับไปร่วมรบอีก และจะได้รับการปล่อยตัวเมื่อสถานการณ์สงบ

“ในทางกลับกัน กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง และพยายามโยนปัญหาภายในของตนให้กลายเป็นประเด็นระหว่างประเทศ” ไทยวันนี้…ไม่ใช่ไทยเมื่อวาน

เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นภาพสะท้อนชัดเจนว่า นโยบายการต่างประเทศของไทยในปัจจุบัน เข้มแข็ง มั่นคง และมีท่าทีปกป้องอธิปไตยอย่างชัดเจน ไม่มีการอ่อนข้อ ไม่มีการปล่อยผ่าน
ไม่มีการยอมให้ใครกล่าวหาประเทศไทยโดยปราศจากข้อเท็จจริง คนไทยทุกคนจึงสามารถมั่นใจได้ว่า “ประเทศไทยในวันนี้ มีเสียงที่ดัง ชัด และทรงเกียรติบนเวทีโลก”

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

บรรยากาศเงียบเหงา "จุดผ่านแดนบ้านแหลม-บ้านผักกาด" จันทบุรี ปิดด่าน 100% ห้ามใครเข้าออกทุกกรณี
BAM จับมือ ORN เดินหน้ากลยุทธ์ NPA Partnership เสริมแกร่งธุรกิจ หมุนเร็วแบ่งกำไร ขยายฐานลูกค้าภาคเหนือ
สลด! ชายวัย 59 ปี ถูกน้ำพัดดับ พบศพในคลองยางงาม หนองไผ่ คาดขับรถฝ่าสายฝนพลัดตกน้ำ
"กรมการท่องเที่ยว" เผย ต.ค.68 มีกองถ่ายต่างประเทศ แจ้งขอลงทุนถ่ายทำในไทย สูงสุดของปี สร้างรายได้กว่า 2,500 ล้านบาท
ไต้ฝุ่นฟงวองมุ่งหน้าสู่ไต้หวันหลังถล่มฟิลิปปินส์
กำแพงเพชร ตา วัย 73 ปี จุดไฟเผาบ้านตนเองก่อนนอนบนเตียงให้ไฟคอกตนเองตาย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​