วันที่ 8 ตุลาคม 2568 เมื่อเวลา 16.00 น. นายธนิต ภูมิถาวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อติดตามแก้ไขสถานการณ์น้ำแม่น้ำน่านที่เอ่อล้นตลิ่งและไหลเชี่ยวกราก หลังพบว่า ถนนคันดินกั้นน้ำที่เป็นถนนริมแม่น้ำน่านและเป็นเหมือนคันกั้นน้ำที่บริเวณหมู่ 6 ต.ไผ่หลวง อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ถูกน้ำกักเซาะถนนขาดความยาวประมาณ 15 เมตร ทำให้มวลน้ำจำนวนมหาศาลไหลเข้าสู่พื้นที่การเกษตรและบริเวณชุมชนของ หมู่ 6 ต.ไผ่หลวง อ.ตะพานหิน ประมาณ 200 หลังคาเรือน ได้รับผลกระทบ

ขณะที่ ปภ.พิจิตร ได้ส่งข้อความแจ้งเตือนผ่านระบบสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ระบุว่า “การแจ้งเตือนฉุกเฉิน : ขั้นสูงสุด ติดตามสถานการณ์น้ำแม่น้ำน่าน พบว่kถนนคันกั้นน้ำ (สายตะพานหิน-บางมูลนาก)ในพื้นที่ ม. 6 ต.ไผ่หลวง ถูกน้ำกัดเซาะถนนขาด ทำให้น้ำไหลเข้าสู่ชุมชนบริเวณ ม. 6 ต.ไผ่หลวง อ.ตะพานหิน ขอให้ผู้อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และพื้นที่ใกล้เคียง ยกของขึ้นที่สูง จัดเตรียมสิ่งของที่จำเป็น/ยาประจำตัว เคลื่อนย้ายรถไปในที่สูง เคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบางไปยังที่ปลอดภัย ติดตามข่าวสารราชการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ถนนพนังคันกั้นน้ำแม่น้ำน่านที่บริเวณหมู่ 6 ต.ไผ่หลวง อ.ตะพานหิน ได้แตกเมื่อช่วงเวลา 14.00 น. เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงมวลน้ำจำนวนมหาศาลจากแม่น้ำน่านก็ไหลเข้าท่วมกระจายในเขตพื้นที่ ต.ไผ่หลวง และมีแนวโน้มว่าหากสกัดมวลน้ำก้อนนี้ไม่ได้ น้ำก็จะไหลบ่าไปยังบ้านคลองข่อย ต.ไทรโรงโขน ไปยัง ต.คลองคูณ และไป ต.หอไกร รวมถึงพื้นที่ฝั่งขวาของแม่น้ำน่านของอำเภอบางมูลนาก

