วันที่ 8 ต.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ศูนย์เรียนรู้เชิงประยุกต์น้ำเค็มเพื่อการผลิตปูขาว บ้านเนินหนองหงส์ ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงปูขาวของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในลุ่มน้ำปากพนัง เพื่อศึกษาการนำนวัตกรรมใหม่มาใช้ในกระบวนการเลี้ยงปู โดยพบกับ นายณัฏฐชัย นาคเกษม เกษตรกรผู้เลี้ยงปูขาว เปิดเผยว่า ตนเองและกลุ่มวิสาหกิจได้เริ่มทดลองใช้ ปลาหมอคางดำ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ปลาน้ำเค็มที่เคยถูกมองว่าเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม มาเป็นอาหารในการเลี้ยงปูขาว โดยเริ่มใช้งานจริงมากว่า 2 ปี เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว ปลาทะเลชนิดอื่นหาได้ยาก และปลาหมอคางดำกลับมีจำนวนมากในแหล่งน้ำธรรมชาติ
ในฟาร์มของนายณัฏฐชัยมีทั้งหมด 7 บ่อ ใช้ปลาหมอคางดำไม่ต่ำกว่า 50 กิโลกรัมต่อฟาร์ม ส่วนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงปูขาวที่มีสมาชิกกว่า 30 ราย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 300 ไร่ ใช้ปลาหมอคางดำรวมกันวันละไม่ต่ำกว่า 600-900 กิโลกรัม ซึ่งสามารถลดต้นทุนค่าอาหารจากเดิมที่ต้องซื้อปลาทะเลกิโลกรัมละ 14 บาท เหลือเพียง 10 บาทต่อกิโลกรัม จากการรับซื้อปลาหมอคางดำจากชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งยังช่วยสร้างรายได้เสริมให้กับชุมชนอีกทางหนึ่ง สำหรับเรื่องความปลอดภัยและการควบคุมการแพร่กระจายของไข่ปลาหมอคางดำ นายณัฏฐชัยได้อ้างอิงงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (มทร.ศรีวิชัย) วิทยาเขตไสใหญ่ ที่ระบุชัดว่า การแช่ปลาหมอคางดำในตู้แช่แข็งอุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 24 ชั่วโมง จะสามารถทำลายไข่ปลาได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ให้เกิดการแพร่พันธุ์ในบ่อเลี้ยง ส่วนในกรณีไม่มีตู้แช่แข็ง อาจใช้วิธีแช่น้ำแข็งนาน 3 วันแทน
ทั้งนี้ นายณัฏฐชัยยังระบุว่า วิธีการเลี้ยงปูขาวของกลุ่มฯ ใช้ระบบหลากหลาย ทั้งแบบกึ่งปิด กึ่งเปิด และในบ่อธรรมชาติ โดยเฉลี่ยปล่อยลูกปูประมาณ 800 ตัวต่อไร่ ซึ่งสามารถควบคุมค่า FCR (Food Conversion Ratio) ได้ดี โดยใช้ปลาหมอคางดำ 4 กิโลกรัม จะได้เนื้อปู 1 กิโลกรัม ฝากถึงเกษตรกรที่อาจยังกังวลต่อการใช้ปลาหมอคางดำว่า หากดำเนินการตามคำแนะนำด้านการแช่แข็งก่อนนำมาใช้เป็นอาหาร จะไม่เกิดปัญหาการแพร่พันธุ์ในบ่อเลี้ยงแน่นอน อีกทั้งยังสามารถลดต้นทุน และช่วยเพิ่มรายได้แก่ชาวบ้านที่นำปลามาขาย ถือเป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสอย่างแท้จริง.
กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ ศูนย์ข่าว TOPNEWS ทั่วไทย ภาคใต้