วันที่ 7 ต.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าผลพิสูจน์ดีเอ็นเอคดีปล้นทองกลางห้างสรรพสินค้าในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ยืนยันชัดเจนว่าผลตรวจดีเอ็นเอตรงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐตามที่บางกลุ่มพยายามบิดเบือน จากเหตุการณ์ปล้นทองเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา นับเป็นเหตุสะเทือนขวัญที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนใต้ และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยพฤติการณ์ของคนร้ายสะท้อนเจตนาชัดเจนในการใช้ความรุนแรงเพื่อหวังผลทางการเงินมาหล่อเลี้ยงกลุ่มขบวนการ แต่กลับมีบางกลุ่มเผยแพร่ข้อมูลเท็จ กล่าวอ้างว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐ
ล่าสุดผลการตรวจสอบหลักฐานจากรถยนต์ 2 คันที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ซึ่งถูกพบจอดทิ้งในพื้นที่บ้านตอออ หมู่ 1 ตำบลกายูคละ อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส พบว่าตรงกับรถของผู้เสียหายที่แจ้งความว่าถูกปล้นไว้ก่อนหน้านี้ที่ สภ.สุไหงปาดี นอกจากนี้ ผลตรวจดีเอ็นเอที่เก็บได้จากภายในรถยังยืนยันชัดว่าเป็นของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับคดีความมั่นคง โดยเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ระบุว่า หากมีความคืบหน้าจะรายงานเพิ่มเติม พร้อมขอความร่วมมือประชาชนช่วยสอดส่องดูแลพื้นที่ หากพบเห็นบุคคลหรือวัตถุต้องสงสัย ให้แจ้งสายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. โทร. 1341 หรือหน่วยเฉพาะกิจใกล้บ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ย้ำว่า การให้ที่พักพิงหรือสนับสนุนผู้ก่อเหตุ ไม่ว่าจะทางใด ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอริก สหสันติวรกุล ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.ปัตตานี