AFP รายงานว่าซานาเอะ ทาคาอิจิ นักการเมืองสายอนุรักษ์นิยมวัย 64 ปี แถลงข่าวครั้งแรกที่สำนักงานใหญ่พรรคเสรีประชาธิปไตยหรือ LDP หลังชนะการโหวตรอบสองได้เป็นหัวหน้าพรรค LDP คนใหม่เมื่อวานนี้ (เสาร์ที่ 4 ตค.) ว่าเธอมีภารกิจกองโตเท่าภูเขารอเธออยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฟื้นฟูสถานภาพของพรรค LDP ที่กำลังย่ำแย่ให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง
ทาคาอิจิซึ่งกำลังจะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นหลังการโหวตรับรองโดยสมาชิกรัฐสภาในวันที่ 15 ตุลาคมนี้กล่าวว่าสมาชิก LDP ทุกคนและทุกเจนเนอเรชั่นต้องทำงานหนักเพื่อฟื้นฟูพรรค หลังจากพรรค LDP ซึ่งเคยเป็นพรรครัฐบาลมาอย่างต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่ปี 2498 ต้องมาสูญเสียการสนับสนุนให้กับพรรคเล็กๆ และว่าขณะนี้ LDP ได้เข้าสู่ยุคใหม่แล้ว
ภารกิจสำคัญอันดับแรกที่ว่าที่ทาคาอิจิจะต้องเจอในฐานะนายกรัฐมนตรีคือการต้อนรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผุ้นำสหรัฐที่มีแผนจะเยือนญี่ปุ่นระหว่างเดินทางเข้าร่วมประชุมผู้นำเอเปคที่เกาหลีใต้ปลายเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งทาคาอิจิกล่าวว่าเธอไม่คิดที่จะล้มข้อตกลงการค้าระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐ แม้ข้อตกลงดังกล่าวจะยังมีข้อกังขาอีกหลายข้อ
ทาคาอิจิจะต้องเผชิญกับปัญหาที่ซับซ้อนอีกมากมาย ทั้งเศรษฐกิจ, ประชากรสูงวัย, ภูมิรัฐศาสตร์และการต่อต้านผู้ลี้ภัยต่างชาติ
ทั้งนี้ทาคาอิจิให้คำมั่นว่าเธอจะเร่งแก้ปัญหาเงินเฟ้อและสินค้าราคาแพง โดยในอดีตทาคาอิจิเคยสนับสนุนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินและหนุนการใช้จ่ายทางการคลังด้วยงบฯขนาดใหญ่ ขณะที่ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ดูเหมือนจะเป็นสิ่งท้าทาย เนื่องจากทาคาอิจิเคยวิพากษ์วิจารณ์นโยบายการเสริมสร้างกองทัพของจีน และมักไปสักการะศาลเจ้ายาสุคุนิซึ่งอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งการที่ญี่ปุ่นเลือกทาคาอิจิเป็นผู้นำคนต่อไปคาดว่าจะสร้างความไม่พอใจให้จีนและเกาหลีใต้
ด้านกระทรวงต่างประเทศจีนออกมาแถลงว่าจีนหวังว่าญี่ปุ่นภายใต้การนำของทาคาอิจิจะยึดมั่นในนโยบายสำคัญทางการเมืองรวมทั้งเรื่องราวในประวัติศาสตร์และประเด็นไต้หวัน นอกจากนี้ก็จะผลักดันนโยบายที่เป็นบวกและเป็นเหตุเป็นผลต่อจีน
เรียวกิ ทัตสุมิ ชาวญี่ปุ่นวัย 23 ปีชาวกรุงโตเกียวกล่าวว่าในอดีตญี่ปุ่นเคยจักรพรรดินี แต่ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีหญิง การได้ผู้นำหญิงคนแรกน่าจะเป็นโอกาสที่ดีและสะท้อนถึงความก้าวหน้าของญี่ปุ่น
