“เขื่อนเจ้าพระยา” เร่งระบายน้ำ 2,400 ลบ.ม.ต่อวินาที “ชาวบ้าน” ท้ายเขื่อนบางราย เริ่มขนของขึ้นมาอาศัยริมถนน

กรมชลประทาน แจ้งเตือนเขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มกรระยายน้ำ 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่ชาวบ้านท้ายเขื่อนเริ่มขนของขึ้นมาอาศัยริมถนน

“เขื่อนเจ้าพระยา” เร่งระบายน้ำ 2,400 ลบ.ม.ต่อวินาที “ชาวบ้าน” ท้ายเขื่อนบางราย เริ่มขนของขึ้นมาอาศัยริมถนน – Top News รายงาน

 

เขื่อนเจ้าพระยา

 

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2568 สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทางกรมชลประทาน มีการแจ้งเตือน ขอปรับเพิ่มการระบาน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จากเดิมในอัตรา 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำฝน และน้ำท่า

ซึ่งปัจจุบัน สถานการณ์น้ำที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 2,736 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.35 เมตร/รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 15.52 เมตร/รทก. ซึ่งระดับน้ำห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 82 เซนติเมตร และเขื่อนเจ้าพระยา มีอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 2,323 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงส่งผลทำให้ที่สถานี C.3 บ้านบางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 2,424 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที นอกจากนี้ทางกรมชลประทานยังได้มีการผันน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่ง ในอัตรารวมกันอยู่ที่ 436 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะที่ทางชาวบ้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ในพื้นที่ ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา บางรายเริ่มทยอยขึ้นมาอาศัยอยู่ริมถนนสายคันคลองมหาราชบ้างแล้ว บางส่วน หลังมวลน้ำจากเเม่น้ำปริ่มตลิ่ง

นายจรัญ ขวัญเผือก ชาวบ้าน หมู่ 1 ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา เผยว่า วันนี้ระดับน้ำลงไป 2 นิ้ว ในบ้านยังปริ่มๆ น้ำ ที่ออกมาอยู่ริมถนน เนื่องจากเตรียมการณ์ไว้ก่อน ถ้าน้ำมาจะเอาไม่ไหวขนของไม่ทัน ตอนนี้ที่บ้านยังไม่ท่วม น้ำปริ่มตลิ่ง เพราะทางเทศบาลทำแนวคันดินกั้นน้ำไว้ ตนเองขึ้นมาอยู่ริมถนนกว่า 10 วันแล้ว บางครอบครัวเริ่มขนของขึ้นมาอยู่ริมถนนเช่นกัน

 

ขณะที่ทางด้าน นางลัดดาวัลย์ ผาสุพันธุ์ นายอำเภอสรรพยา เผยว่า กรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับอำเภอสรรพยา ว่ามีประชาชนอพยพขึ้นไปอยู่ริมถนนจำนวนมาก เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน แม้ว่าในพื้นที่จะมีข้อมูลผู้ประสบภัย แต่ทางเทศบาลตำบลโพนางดำออก ได้ทำแนวคันดินและกระสอบทรายกั้นน้ำไว้ตลอดริมแม่น้ำเจ้าพระยา

โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ยังอาศัยอยู่ในพื้นที่ มีเพียง 3 หลังคาเรือนเท่านั้นที่ขึ้นไปอยู่ริมถนนคันคลองมหาราช เนื่องจากครอบครัวหนึ่งมีผู้พิการ จึงได้อพยพขึ้นไปก่อน เพราะเขาจะต้องเตรียมตัวก่อนคนอื่น อีกครอบครัวหนึ่งเป็นร้านค้า และอีกครอบครัวได้สร้างเต็นท์เพื่อเก็บสิ่งของ ยังไม่ได้ขึ้นไปอยู่อาศัย สำหรับตำบลตลุก มี 1 ครอบครัว ได้ขึ้นไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้ ส่วนตำบลอื่นๆ ยังไม่มีคนขึ้นไปอาศัย

 

ทั้งนี้ นายอำเภอสรรพยา ยังฝากถึงการนำเสนอข่าว ขอให้มีการตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อน หากผิดพลาดจะทำให้เกิดความเสียหาย ทำให้คนทำงานเสียขวัญกำลังใจ รวมถึงพี่น้องประชาชนที่อาจจะตกใจแตกตื่นได้

ขณะที่นายมนตรี คุ้มเขตร์ นายกเทศมนตรีตำบลโพนางดำออก ยืนยันว่า ในพื้นที่ตำบลโพนางดำออก มีประชาชนทำเพิงพักและขึ้นไปอาศัยอยู่ริมถนนคันคลองมหาราช 3 หลังคาเรือน เนื่องจากในพื้นที่ยังสามารถกั้นน้ำไว้ได้ มีผู้ประสบภัยจริงๆ ไม่กี่หลังคาเรือน และชาวบ้านยังอาศัยอยู่ในบ้านของตนเอง ยังไม่เป็นต้องอพยพขึ้นไปบนคันคลอง

แต่เนื่องจากวันนี้ กรมชลประทานได้เพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา จาก 2,300 ลบ.ม./วินาที เป็น 2,400 ลบ.ม./วินาที ต้องติดตามสถานการณ์ว่าจะดำเนินการปกป้อง หรือกั้นกระสอบทรายและเสริมคันดินได้อยู่หรือไม่ ซึ่งเป็นสถานการณ์ข้างหน้า ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าในตำบลโพนางดำออก มีประชาชนอพยพเพียง 3 หลังคาเรือนเท่านั้น

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ฟิลิปปินส์เตือนภัยพายุลูกใหม่”แมตโม”
ตร.แจ้งข้อหา "ฆ่าคนตายโดยเจตนา" กระบะชนลุง 68 ขาขาด ดับสลดที่ รพ.
"แม่ทัพภาคที่ 1" ลงพื้นที่บ้านหน้องหญ้าแก้ว-หนองจาน สระแก้ว มอบนโยบายกำลังพล ปกป้องอธิปไตย กำชับทหารปฏิบัติการทุกรูปแบบ เมื่อได้เปรียบ จัดการได้ทันที
"ผู้กองแคท" รายงานตัวผู้ว่าฯศรีสะเกษ เปิดใจปมยื่นหนังสือลาออก ชี้ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาจะพิจารณา
กองบิน 41 จัดพิธีวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 48 ปี
ตำรวจเมืองคอน ทลายแก๊งจำนำรถเถื่อน ดอกเบี้ยโหดเกินกฎหมาย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​