“พิพัฒน์” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำเนียบฯ ห่วงรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินล่าช้า พร้อมคุย สกพอ. หน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งแก้ปัญหากระทบ EEC

“พิพัฒน์” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำเนียบฯ ไม่ปฏิเสธพลังดูด สส.ภาคใต้เข้า ภูมิใจไทย อ้างเตรียมเลือกตั้งใช้เวลาเป็นปีแล้ว ย้ำรักษา MOA ไม่พยายามเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ต่อมา ‘พิพัฒน์’ เตรียมถกนายกฯ-อัยการสูงสุด หาข้อสรุปปมแก้สัญญาไฮสปีดเทรน เชื่อม 3 สนามบิน ยันยึดตามสัญญาเดิมไปก่อน หวั่นรัฐเสียหาย นัดคุยผู้บริหาร EEC หาข้อสรุป เล็งนัดประชุมบอร์ดเร็ว ๆ นี้

“พิพัฒน์” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำเนียบฯ ห่วงรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินล่าช้า พร้อมคุย สกพอ. หน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งแก้ปัญหากระทบ EEC – Top News รายงาน

พิพัฒน์

 

ทำเนียบ วันนี้ (2 ต.ค.) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะแกนนำพรรคภูมิใจไทยในภาคใต้ เดินทางเข้าสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่และศาลตา-ศาลยา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล เพื่อความเป็นสิริมงคล ในโอกาสเข้าปฏิบัติหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลอย่างเป็นทางการ ในเวลา 08.08 น.

 

จากนั้น นายพิพัฒน์ให้สัมภาษณ์กล่าวถึงการที่ สส. ในพื้นที่ภาคใต้จากพรรคอื่นๆ จะย้ายเข้ามาอยู่พรรคภูมิใจไทย ว่า เบื้องต้นนายกรัฐมนตรีได้มีการลงนาม MOA กับพรรคประชาชน ว่าพรรคภูมิใจไทย จะไม่พยายามหรือดึงคนเข้ามา เพื่อเป็นเสียงให้กับพรรคภูมิใจไทย และรัฐบาลชุดนี้ เพื่อยังคงเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่การเตรียมการที่มีในขณะนี้ก็ถือเป็นการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งไม่สามารถดำเนินการเพียง 2-3 เดือนได้ทัน แต่จะต้องมีการเตรียมการล่วงหน้าเป็นปี ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการเตรียมการอยู่แล้ว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อมา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เตรียมหารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เบื้องต้นกับการตัดสินใจเกี่ยวกับสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) วงเงิน 2.24 แสนล้านบาท ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัทเอเชีย เอราวัน จำกัด ผู้รับสัมปทาน หลังจากโครงการดังกล่าวล่าช้ามาหลายปี และส่งต่อการพัฒนาโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ด้วย

ขณะเดียวกันยังเตรียมหารือกับสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาข้อกฎหมายต่าง ๆ เพื่อให้ได้ความชัดเจนว่าในการแก้ไขสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินนี้ว่าผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะรัฐบาลไม่อยากให้การทำโครงการไปแล้วเกิดปัญหาตามมา และตนเองนั้นก็คงจะตัดสินใจด้วยตัวเองเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ จึงขอหารือในเรื่องของกฎหมายให้ชัดเจนก่อน

“สิ่งที่มีการทำสัญญาไว้ตั้งแต่แรกคือต้องยึดถือในสัญญานั้น แต่ถ้าจะมีการเปลี่ยนสัญญา ก็คงตัดสินใจด้วยตัวเองไม่ได้ เพราะต้องหารือในเรื่องของข้อกฎหมายกับทางอัยการสูงสุดว่า สิ่งต่าง ๆ มีอะไรที่สามารถจะแก้ไขได้หรืออะไรที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งตัวเองนั้นก็ไม่เห็นด้วย หากทำไปแล้วทำให้รัฐเกิดความเสียหาย”นายพิพัฒน์ กล่าว

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในการหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้ คงต้องเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือทั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) การรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัทเอเชีย เอราวัน จำกัด โดยในวันนี้จะคุยกับทางผู้บริหารของ สกพอ. เพื่อรับทราบรายละเอียดความคืบหน้าการดำเนินโครงการทั้งหมดมของโครงการ EEC ว่าเป็นอย่างไร และคงได้สอบถามถึงแนวทางการแก้ปัญหาด้วย

“ส่วนตัวเองก็อยากจะเร่งให้โครงการนี้ได้สำเร็จรุดหน้าไปด้วยดี แต่ถ้าหากว่าเกิดปัญหา ก็ต้องหารือกันว่าจะหาวิธีแก้ไขอย่างไรในสิ่งที่สูญเสียไปในส่วนนั้น เช่น การขนส่งตั้งแต่สนามบินสุวรรณภูมิจนไปถึงดอนเมืองว่าจะมีวิธีการแก้ปัญหาอย่างไร จะเอาส่วนไหนเข้ามาชดเชยได้ นี่คือสิ่งที่เป็นเรื่องที่ต้องรีบทำ แต่ยังไงก็แล้วแต่ต้องหารือกับทางผู้ประกอบการภาคเอกชนและทุกฝ่ายก่อน”นายพิพัฒน์ ระบุ

 

เมื่อถามว่ารัฐบาลจะนัดประชุมบอร์ด EEC เพื่อเร่งแก้ปัญหาเลยหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า จะขอหารือกับทางเลขาธิการ EEC และผู้บริหาร EEC ก่อนว่ามีอะไรที่ค้างอยู่ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าในช่วงระยะเวลา 4 เดือนนี้ ที่มีความจำเป็นต้องเร่งขับเคลื่อนโครงการออกมาให้ได้

ส่วนการประชุมครม.เศรษฐกิจ ที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าจะนัดประชุมในเดือนตุลาคมนี้ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงคมนาคมมีหลายโครงการที่เป็นโครงการเร่งด่วนที่จะต้องเสนอเข้ามาให้ที่ประชุมพิจารณา เช่น การเร่งรัดโครงการก่อสร้างบริเวณถนนพระรามที่ 2 รวมทั้งโครงการมอเตอร์เวย์นครราชสีมา โดยจะหารือกับปลัดกระทรวงคมนาคมว่าส่วนไหนที่สามารถเปิดใช้ทันปีใหม่ได้ต้องรีบเปิด แต่ถ้าส่วนไหนที่เปิดไม่ทันก็พยายามจะเร่งและเปิดให้ทันก่อนสงกรานต์ปีหน้า

“เทศกาลปีใหม่และสงกรานต์จะมีเพื่อนคนไทยเดินทางกลับภูมิลำเนา และมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เข้ามาเที่ยวในช่วงนี้ ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของประเทศไทยค่อนข้างมาก สิ่งต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวกได้หรือเปิดผิวจราจรให้ได้มากสุด กระทรวงคมนาคมก็กำลังเร่งรีบ” นายพิพัฒน์ ระบุ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อบจ.พิษณุโลก ส่ง จนท.-รถน้ำช่วยทำความสะอาดบ้านเรือน ปชช.
เพจดังแฉ "เขมร" จ้องฮุบ "ปราสาทคนา" สุรินทร์ เจอกัมพูชาสร้างฐานทหาร-บันไดไม้ทางขึ้น ทั้งๆ "กรมศิลป์" เคยสำรวจแล้ว ยันเป็นของไทย
“สีหศักดิ์" แต่งตั้ง "17 กุนซือ" ที่ปรึกษารมว.ต่างประเทศ ขับเคลื่อนนโยบายยุทธศาสตร์
ตำรวจศรีบุญเรือง รวบชาย 29 ปีพร้อมสิ่งเสพติด ยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบเกือบสองล้านบาท
แม่ทัพภาคที่ 1 ย่องเงียบลงพื้นที่บ้านหนองจาน รับฟังข้อมูลจากหน่วยในพื้นที่ จ.สระแก้ว
ร้อยเอ็ด จัดฉลองครบรอบ 10 ปี สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว ดึง Miss Thailand International 2025 ร่วมสร้างสีสัน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​