วันที่ 1 ตุลาคม 68 ผู้สื่อข่าวรายงาน อิทธิพลของพายุ บัวลอย ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ ทำให้น้ำป่าหลากภูเขาไหลลงสู่ลำห้วย และหลากเข้าท่วมบ้านเรือน ถนน พื้นที่การเกษตร 3 อำเภอ คือ อำเภอน้ำปาด อำเภอทองแสนขัน และอำเภอท่าปลา และยังขยายวงกว้างทะทักเข้าท่วม อ.ตรอน และประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำท้ายเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งสถานการณ์ล่าสุดยังคงวิกฤติ ขณะที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัย อ.ตรอน อ.พิชัย ประชาชนอาศัยอยู่ริมน้ำน่านอพยพ เก็บสิ่งของขึ้นที่สูง
ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา นางสาวชาครียา เศรษฐเสรี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์ (ปภ.อุตรดิตถ์) นำทีม จนท.และอาสาสมัครกู้ภัย ทหาร และจิตอาสา ลงพื้นที่ อ.ทองแสนขัน อ.ตรอน ในการเร่งอพยพกลุ่มเปราะบาง ไปยังฏรงพยาบาลอุตรดิตถ์และโรงพยาบาลพิชัย และได้มีการอพยพประชาชนที่อาศัยพื้นที่เสี่ยงภัย ออกจากพื้นที่ ในขณะที่ระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ โดยเฉพาะที่บ้านห้วยแมง หมู่ 3 ต.น้ำไคร้ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำที่ล้นปริลเวย์ในอ่างเก็บน้ำคลองตรอน หรือ อ่างห้วยแมง ซึ่งเป็นผลมาจากฝนที่ตกหนักติดต่อกันตลอดทั้งคืนวันที่ 29 – 30 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้น้ำจำนวนมากไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ที่หลายครอบครัวหลายคนไม่ทันระวังหรือเตรียมพร้อมล่วงหน้า ล่าสุดพื้นที่สูงระดับน้ำเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ
ส่วนพื้นที่ลุ่มยังคงมีน้ำท่วมขังและรอการระบายอยู่ ส่วนอาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) น้ำไคร้ ก็ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมด้วยเช่นกัน โดยมีรายงานจาก อบต.น้ำไคร้ ว่า ขณะเกิดน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนมีการแจ้งผู้สูญหายไม่สามารถติดต่อหรือติดตามตัวได้ จำนวน 4 คน และ ที่อำเภอท่าปลา พบผู้เสียชีวิตจากกระกสน้ำผลัด 1 ราย ส่วนสถานการณ์น้ำที่ อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ ระดับเริ่มลดลง แต่ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ เพราะยังมีพื้นที่ลุ่มต่ำยังมีน้ำท่วมขังอยู่