เปิดสวนส้มโอทับทิมสยามทนาย

วันที่ 17 ต.ค. 2564  ที่ “สวนทนาย” สวนส้มโอทับทิมสยามภายในซอยท่าเรือ 5 แยก 2 บ้านนาหลวง ถนนนครศรีธรรมราช-ปากพนัง หมู่ 10 ต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้มีประชาชนในตัวเมืองเดินทางไปเที่ยวผักผ่อนและหาซื้อมะละกอ มะพร้าวน้ำหอม และกิ่งต้นส้มโอทับทิมสยาม อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงบ่ายถึงค่ำ โดยมีนายธนาชัย เกตุโรจน์ อายุ 58 ปี ทนายความชื่อดัง อดีตกรรมการสภาทนายจังหวัดนครศรีธรรมราชและสภาทนายภาค 8 คอยให้บริการและแนะนำอย่างใกล้ชิดเป็นกันเอง ซึ่งภายใน “ สวนทนาย”เนื้อที่ 8 ไร่ มีการขุดสระน้ำขนาดใหญ่ประมาณ 1 ไร่ไว้ตรงกลาง และมีการยกขอบดินรอบพื้นที่สูง 1 เมตรเพื่อป้องกันน้ำท่วม ภายในสวนมีบ้านพักทรงโมเดิร์น 1 หลังพร้อมห้องโถงกว้างสำหรับนั่งชมทัศนียภาพและสูดอากาศบริสุทธิ์ ในขณะที่พื้นที่ใกล้เคียงโดยรอบจะเป็นทุ่งนากว้างขวาง


ในพื้นที่แบ่งโดยภาพรวมจะปลูกส้มโอทับทิมสยาม อายุแค่ 2 ปี แต่เริ่มให้ผลผลิตบ้างแล้ว นอกจากนี้ยังมีมะละกอ มะราวน้ำหอม กล้วย ที่ให้ผลผลิตสามารถจำหน่ายสร้างรายได้ทุกวัน โดยในพื้นที่มีต้นตาลโตนดขนาดใหญ่สูงประมาณ 20 เมตรขึ้นอยู่ด้านทิศตะวันตกอย่างโดดเด่น สวยงาม มองมั่วไปคิดว่าเป็นภาพวาดหรือรูปปั้นต้นตาลโตนด ไม่ใช่ต้นตาลโตนดจริง ๆ เพราะโคนต้นมีขนาดใหญ่ อสีน้ำตาลสูงขึ้นไปจนถึงจุดกึ่งกลางลำต้นได้บีบเล็กลีบลงเหลือขนาด 30-40 เปอร์เซ็นต์ของลำต้นเดิม ในส่วนที่เล็กลีบยาวประมาณ 1-2 เมตรจากนั้นลำต้นก็ค่อน ๆ ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนไปถึงปลายต้น ที่สำคัญลำต้นส่วนที่เล็กที่เล็กลีบจะมีสีขาวคล้ายกับการเอาสีขาวขึ้นไปทาไว้ ในส่วนของใบรอบ ๆ ต้นจะมีนก กระจาบแห่มาทำรังที่ใบตาลโตนดไม่น้อยกว่า 50 รังหอยระโยงระยาง สวยงาม แปลกตา จนคนทั่วไปคิดว่ามีการนำรังนกกระจาบดังกล่าวขึ้นไปแขวนห้อยกับใบตาลโตนดต้นดังกล่าว ทั้ง ๆ ที่ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์


นายธนาชัย เกตุโรจน์ กล่าว เมื่อก่อนพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าละเมาะรึกทึบและเป็นที่ตาบอด ไม่มีทางเข้าออก ตนซื้อไว้ไร่ละไม่กี่หมื่นบาทและทิ้งไว้เฉย ๆ ประมาณ 15 ปี เพราะไม่มีเวลาลงไปดูแลพัฒนาเนื่องจากตนติดคดีว่าความทั่วประเทศต่อเนื่อง แต่อาศัยช่วงงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์เข้าไปปรับพื้นที่โดยซื้อที่ดินทำทางเข้าไปในพื้นที่ ทำการขุดสระน้ำขนาดใหญ่กลางพื้นที่และปลุกมะละกอและมะพร่าวน้ำหอมไว้เกือบเต็มพื้นที่ แต่ก็ไม่มีเวลาเข้าไปดูแลปรับปรุงมากนัก ปลูกทิ้ง ๆ ไว้ ผลผลิตส่วนหนึ่งตกหล่นทิ้งไปโดยเปลาประโยชน์ เมื่อมีเวลาว่างก็เข้าไปเก็บผลผลิตมาแจกจ่ายให้เพื่อนบ้าน จนเมื่อ 2 ปีก่อนพอจะมีเวลาว่างมากขึ้นเนื่องจากมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด คดีความต่าง ๆ น้อยลงและเลื่อนการพิจารณาออกไป ทำให้มีเวลาว่างมากขึ้นจึงลงไปลุยปรับสภาพพื้นที่อย่างจริงจัง ปลูกบ้านหลังใหญ่พร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อน 1 หลังก่อนได้รับคำแนะจากนางกมลทิพย์ กุลคง เจ้าของกิจการสวนส้มโอทับทิมสนาม “ป้าแดง-ลุงแอ๊ด” ให้ทดลองปลูกส้มโอทับทิมสยามดูว่าได้ผลหรือไม่ แต่สภาพพื้นที่ทั่วไปค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพราะเกรงว่าพื้นที่ปลูกที่ไม่อยู่ในพื้นลุ่มน้ำปากพนังส้มโอทับทิมสยามอาจจะกลายพันธุ์ทำให้คุณภาพด้อยลงกว่าส้มโอทับทิมสยามในลุ่มน้ำปากพนังก็ได้ ตนจึงล้มมะละกอและมะพร้าวน้ำหอมออกบางส่วนทำการปลูกส้มโอทับทิมสยาม ปรากฏว่าปลูกมาได้ไม่ถึง 2 ปีพบว่าต้นเจริญงอกงามกว่าที่ปลูกในพื้นที่อื่น ๆ และในปีนี้เริ่มให้ผลผลิตหลายต้นแล้วรวมประมาณ 30-40 ลูกทั้ง ๆ ที่ตามปกติส้มโอทับทิมสยามจะให้ผลิตในช่วงปีที่ 4-5 ที่สำคัญผลิตที่ได้ทั้งรูปทรง สี รสชาติ ขนาดของผล โดยเฉพาะขนกำมะหยี่ทั่วไปที่เป็นเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ ที่โดนเดินที่วสุดของส้มโอทับทิมสยามสวนของตนจะเหมือนกับส้มโอทับทิมสยาม ”ป้าแดง-ลงแอ๊ด” ไม่ผิดเพี้ยนแม้แต่น้อย นับเป็นสวนส้มโอทับทิมสยามที่อยู่ใกล้ตัวเมืองนครศรีธรรมราชมากที่สุด แต่ผลผลิตส้มโอทับทิมสยามสวนทนายในปีนี้จะจะยังไม่จำหน่ายเพราะมีจำนวนน้อย แต่ได้นำไปแจกจ่ายให้กับพรรคพวกเพื่อนฝูงที่ใกล้ชิดได้ทดลองรับประทาน คาดว่าในปีหน้าผลผลิตจะออกเต็มที่สามารถจำหน่ายมีรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำอย่างแน่นอน


ในปัจจุบันตนได้เพาะชำกิ่งส้มโอทับทิมสยามจำหน่ายกิ่งละ 150-200 บาท รวมทั้งสามารถจำหน่ายมะพร้าวน้ำหอม มะละกอ และอื่น ๆ มีรายได้เดือนละ 2-3 หมื่นบาทแล้ว โดยในช่วงเกือบ 2 ปีที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดเวลาส่วนใหญ่ตนจะทุ่มเทให้กับ “สวนทนาย” แม้การดำเนินการยังไม่สมบูรณ์ครบถ้วนตามเป้าหมายแต่มีพรรคพวกเพื่อนฝูงเข้ามาเยี่ยมชม ตนมีเป้าหมายจะเปิดเป็นร้านกาแฟให้ลูก ๆ ที่ทำงานบริษัทอยู่ในกรุงเทพมหานครกลับมาดูแลต่อไป คาดว่าการพัฒนาจะครบถ้วนเต็มรูปแบบในปีหน้าอบย่างแน่นอน สำหรับผู้ที่สนใจอยากมาเที่ยวชม พักผ่อนหรือซื้อกิ่งส้มโอทับทิมสยาม “สวนทนาย” ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่


ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ชวน-นิพนธ์" นำผู้แทนไทย โรดโชว์ ความร่วมมือไทย-จีน เน้นแลกเปลี่ยนนโยบายศก.เทคโนฯ นำปรับใช้พัฒนาอุตฯ พร้อมโชว์ศักยภาพภาคใต้ไทย
"ดร.โอฬาร" อ่านขาด "ภูมิใจไทย" เป็นเป้าโดนดิสเครดิต จับโยงคดีฮั้วสว. ชี้ 6 ข้อ ตอบทำไมเอาผิดยุบพรรคไม่ง่าย
"ตร.ทางหลวง" สกัดจับรถตู้ลอบขนแรงงานเถื่อน ซิ่งแหกด่านมุ่งหน้าลงใต้
"สิรภพ" เปิดงาน “JOB FAIR 2025 @ปทุมธานี” ยกทัพ 50 บริษัทชั้นนำ รับแรงงานกว่า 5,000 อัตรา สานฝันคนหางาน สู่เศรษฐกิจดิจิทัล
"อุตุฯ" เตือน 67 จังหวัด รับมือฝนถล่มหนัก กทม.ก็โดนด้วย
MEA แนะนำตรวจสอบสิทธิ์ และขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ผ่านระบบออนไลน์ MEA e-Service ตลอด 24 ชั่วโมง สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเดินทางลดเสี่ยงโรค
ปลดแล้ว!!! “ครูคอสเพลย์หน้ากากหมา” ยุคนี้ ศธ.ฟันจริงไม่มีขู่ ปูนบำเน็จครูสู้เพื่อเด็ก
MEA ร่วมลงนาม MOU กับ Bhutan Power Corporation Limited (BPC) หน่วยงานการไฟฟ้าของประเทศภูฏาน ผนึกความมั่นคงระบบจำหน่ายไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ
รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ติดตามแผนอนุรักษ์ “โลมาอิรวดี’’ เครือซีพี-มูลนิธิซีพี ร่วมฟื้นฟู “ทะเลสาบสงขลา” ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ 5 แสนตัว พร้อมร่วมสร้างเครือข่ายชาวประมง-เยาวชน รักษ์ทรัพยากรทางทะเล
"คลีนเล้าด้วยใจ ปันไข่ให้น้อง" มูลนิธิซีพี จับมือ ซีพีเอฟ เดินหน้ายกระดับสุขอนามัยโรงเรียน ต่อยอด "โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น