21 พฤษภาคม 2568 – นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยกรณีฟันวินัยประพฤติชั่วร้ายแรงของข้าราชการในสังกัด “ครูหน้ากากหมา” ชี้ให้เห็นถึงการดำเนินการจัดการอย่างจริงจังและชัดเจนกรณีทำผิดวินัย ในยุคของพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ เน้นย้ำครูและบุคลากรทางการศึกษาตระหนักคิดก่อนทำเรื่องเสื่อมเสีย พร้อมยกย่องครูที่ลุกขึ้นมาสู้กับความไม่ถูกต้องจนต้นสังกัด “เลื่อนขั้นเงินเดือน” เป็นขวัญกำลังใจ
โฆษก ศธ. กล่าวว่า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุทัยธานี ชัยนาท ได้มีคำสั่งลงโทษปลดออกกรณี “ครูคอสเพลย์หน้ากากหมา” ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวในกระแสโซเชียลว่าได้กระทำผิดวินัยในเรื่องมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ถ่ายภาพและคลิปวิดีโอในลักษณะลามก่อนาจารในสถานศึกษาลงในสื่อสังคมออนไลน์ และมีพฤติกรรมพูดคุยผ่านสื่อสังคมออนไลน์กับนักเรียนในลักษณะไม่เหมาะสมในลักษณะขอถุงเท้าและกางเกงในกันกับนักเรียนเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงกรณี ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
พฤติกรรมดังกล่าวเป็นการที่ไม่รักษาชื่อเสียงตนและรักษาเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนมิให้เสื่อมเสีย อันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว ประกอบกับไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความชื่อสัตย์สุจริต เสมอภาค และเที่ยงธรรม มีความวิริยะ อุตสาหะ ขยันหมั่นเพียร ดูแลเอาใจใส่ รักษาผลประโยชน์ของทางราชการและต้องปฏิบัติตนตามมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพอย่างเคร่งครัด และต้องประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียน ชุมชน สังคม และมีความสุภาพเรียบร้อย รักษาความสามัคคีช่วยเหลือเกื้อกูลต่อผู้เรียนและระหว่างข้าราชการด้วยกันหรือผู้ร่วมปฏิบัติราชการ
ดังนั้น ที่ประชุม อ.ก.ค.ศ. ครั้งที่ 7/2568 ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำของครูคนดังกล่าวเป็นกรณี “ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง” ตามมาตรา 94 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่ อ.ก.ค.ศ. และ ก.ค.ศ. ตั้ง แต่ในระหว่างรับราชการมีความดีความชอบจึงมีมติให้ลงโทษ “ปลดออกจากราชการ” ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2568
ในห้วงเวลาที่ผ่านมาแม้จะมีเรื่องที่ข้าราชการในสังกัดกระทำผิดวินัยหรือกระทำผิดทางอาญา แต่ขอยืนยันเลยว่าจะไม่ปล่อยผ่านในยุคนี้อย่างแน่นอน เพราะเป็นเรื่องที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก และกำชับให้เร่งติดตามอย่างใกล้ชิด จนดำเนินการจบสิ้นกระบวนการได้ภายในเวลา 2 เดือน นับเป็นมาตรฐานใหม่ในการจัดการด้านวินัย
ขอย้ำไปถึงครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคน ถึงอุทาหรณ์จากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมทั้งทางทุจริต ประพฤติมิชอบ หรือกรณีทำผิดใด ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อทางร่างกายและสภาพจิตใจของบุคคลอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้เรียนของเรา หากพบการกระทำผิดจริงเราจะเดินหน้าดำเนินการจนถึงที่สุด ขอให้ตระหนักและพึงระลึกอยู่เสมอว่ามีสายตามากมายจับจ้องอยู่ จงมีสติก่อนกระทำการทุกอย่างที่ไม่ควร และจงตักเตือนกันเมื่อพบเห็นสิ่งไม่เหมาะสม ก่อนที่จะสายเกินในการทิ้งอนาคตในชีวิตข้าราชการ
“สิ่งสำคัญที่น่ายกย่องที่สุดจากกรณีนี้คือ คุณครูผู้ลุกขึ้นมาสู้เพื่อปกป้องนักเรียนด้วยจิตวิญญาณของความเป็นครูเปี่ยมล้น ความมุ่งมั่นอีนแน่วแน่นี้ส่งผลให้ สพฐ.พิจารณา “ปูนบำเหน็จเลื่อนขั้นเงินเดือน” แก่ครูกล้าหาญที่ยืนหยัดสู้กับความไม่ถูกต้อง สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้ครูน้ำดีทุกคนที่มีความปรารถนาดีต่อผู้เรียนอย่างไม่มีเงื่อนไข ขอให้ตั้งใจทำความดีต่อไปสมกับหัวใจความเป็นครู” โฆษก ศธ. กล่าว