“มนพร” ซัดรัฐบาลเฉพาะกิจ มุ่งปิดคดี หวังผลประโยชน์ให้กับพวกพ้อง

“มนพร” ซัด “รัฐบาล” ยกเลิกโครงการ รฟฟ.20 บาทตลอดสาย เพราะไม่มีสส.กทม.หรือไม่ บอก รบ.เฉพาะกิจ ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อหวังแค่หวังอำนาจทางการเมือง ไม่ได้มุ่งเน้นพัฒนาประเทศ หวังลุแก่อำนาจ ใช้กลไกราชการเป็นเครือข่ายพรรคการเมือง

“มนพร” ซัดรัฐบาลเฉพาะกิจ มุ่งปิดคดี หวังผลประโยชน์ให้กับพวกพ้อง – Top News รายงาน

 

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2568 เวลา 23.10 น. ที่รัฐสภา นางมนพร เจริญศรี สส.นครพนม พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายว่า ท่านเป็นรัฐบาลเฉพาะกาล ที่มาจากความบิดเบี้ยวพรรคการเมืองหนึ่งโหวตให้และถอนตัวออกมาเป็นฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาล โดยการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ไม่ใช่ระบบปกติในการเลือกตามระบบรัฐสภา นี่เป็นความสง่างามของการเลือกนายกรัฐมนตรีของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล

ตนจึงขออภิปรายว่า รัฐบาลของ นายอนุทิน เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ มุ่งปิดคดีเพื่อการเลือกตั้ง หวังผลประโยชน์ให้พวกพ้อง การที่นายอนุทิน ประกาศต่อสาธารณชนว่าจะเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ 4 เดือน แต่จากการกระทำหลายอย่างตั้งแต่การแต่งตั้งพวกพ้อง โยกย้ายข้าราชการที่อาจถูกมองว่าเป็นคนของตัวเองเข้าไปยังกระทรวงต่างๆ นั้น อาจเป็นที่น่าสงสัยว่ากระทำไปเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง โดยเฉพาะการโยกย้ายเข้ากระทรวงนั้นเป็นกระทรวงใหญ่

นางมนพร กล่าวต่อว่า ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคมปี 2567 ครั้งนายอนุทิน ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ได้เกิดการโยกย้ายข้าราชการครั้งใหญ่กว่า 30 ตำแหน่งในคราวเดียว ทำให้สื่อมวลชนถึงกับขนานนามว่าการกระทำนั้นเป็นการจัดทัพราชสีห์ หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นการจัดคน วางพวกมากกว่าการบริหารราชการ เช่น อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ได้เลื่อนขึ้นเป็นอธิบดีกรมการปกครองท้องถิ่น หรือบุคคลใกล้ชิดของตระกูลทางการเมืองก็ได้รับตำแหน่งสำคัญ

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะเดียวกัน ยังมีการเลื่อนตำแหน่งแบบขึ้นทางด่วน ของอดีตหน้าห้องนักการเมือง ขึ้นเป็นรองผู้ว่าฯ ในเวลาอันสั้น สิ่งเหล่านี้อาจเป็นการส่งสัญญาณไปยังระบบราชการทั้งประเทศว่าความก้าวหน้าไม่ได้ขึ้นกับผลงาน แต่ขึ้นอยู่กับพวกพ้องของนักการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่งก็เป็น จนสื่อมวลชนหลายคนขนานนามว่าหากจะเติบโตได้ดีต้องเป็นคนสายสีน้ำเงิน

นางมนพร กล่าวต่อว่า นโยบายเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อการเลือกตั้ง และสร้างภาระการคลังและความเหลื่อมล้ำ โดยตนขอตั้งข้อสังเกตว่า นโยบายใหญ่ที่ประกาศจะทำได้จริงใน 4 เดือนนี้หรือไม่ หรือเป็นเพียงการประกาศไปเพื่อหวังผลในการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น นอกจากจะทำไม่ได้จริงแล้วยังอาจสร้างภาระทางการคลังผูกพันไปอีกเป็นสิบ ยี่สิบปี เช่น โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่รัฐบาลนี้ยกเลิกไป เป็นเพราะท่านไม่มีสส.ในพื้นที่กทม.ใช่หรือไม่

หรืออย่างโครงการฟรีโซลาร์เซลล์ ฟรีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ที่เรียกว่า เป็นอภิมหาการอุดหนุน เพราะเป็นการอุดหนุนถึง 5 ชั้น ทั้งการติดตั้งฟรี รับซื้อไฟฟ้าคืน 25 ปี สิทธิซื้อรถราคาถูก สินเชื่อปลอดดอกเบี้ย และพลังงานชาร์จฟรี

ซึ่งงบฯทั้งหมดผูกพันงบประมาณระยะยาว ไม่ใช่เพียงจ่ายครั้งเดียว แต่สร้างภาระดอกเบี้ยและหนี้ที่ประชาชนทั้งประเทศต้องแบกรับลากยาวไปอีก 25 ปี ทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่จะทำลายการแข่งขันของภาคเอกชนที่อยู่ในสองตลาดนี้ เพราะเมื่อรัฐซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดเข้ามาแข่งขันกับเอกชนโดยตรง อาจทำให้เกิดการบิดเบือนตลาด เสี่ยงผูกขาดให้สัมปทานแต่เอกชนเพียงบางเจ้าเท่านั้น

นางมนพร กล่าวด้วยว่า อีกประเด็นคือ การประกาศดันโครงการใหญ่อย่างแลนด์บริจด์ ซึ่งเป็นนโยบายใหญ่ที่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จใน 4 เดือน สองเหตุผลนี้ทำให้สงสัยว่า ไม่อาจทำนโยบายให้สำเร็จได้ใน 4 เดือนแน่นอน เนื่องจากโครงการแลนด์บริดจ์เป็นโครงการขนาดใหญ่ มูลค่าการลงทุนสูงกว่าหนึ่งล้านล้านบาท ในระหว่างนี้ การดำเนินโครงการออกแบบทางรถไฟ และจัดทำ EIA จะแล้วเสร็จในปี 2569 และการออกแบบมอเตอร์เวย์และจัดทำ EIA จะต้องแล้วเสร็จในปี 2569 และจะต้องมีกฎหมายที่สนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ ที่เรียกว่า ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) กำหนดสำนักงานเฉพาะกิจ ระบบการกำกับดูแล และระบบของกองทุน

รวมทั้งกลไกการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน ปัจจุบันพบว่า ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว ต้องผ่านคณะกรรมการนโยบายบริหารทุนหมุนเวียน และกรมบัญชีกลาง ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกนานหลายเดือน หลังจากนั้นส่งกลับมาที่กระทรวงคมนาคม เพื่อนำส่งให้กฤษฎีกาได้ตรวจทานและถามความเห็นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่จะต้องใช้เวลาถึง 30 วัน เพื่อนำเข้าให้ ครม.ผ่านจาก ครม.เสร็จ ส่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวให้สภาผู้แทนราษฎร และ สว. พิจารณา โดยจะต้องใช้ระยะเวลาเกินกว่า 4 เดือนแน่นอน จากไทม์ไลน์คร่าวๆ นี้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะสำเร็จได้ในเวลา 4 เดือน

 

“รัฐบาลเฉพาะกิจนี้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อหวังแค่หวังอำนาจทางการเมือง แต่ไม่ได้มุ่งเน้นด้านขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ หวังลุแก่อำนาจ ใช้กลไกราชการเป็นเครือข่ายพรรคการเมือง ใช้นโยบายประชานิยมแบบต่อเนื่องเป็นภาระในระบบของวินัยการคลังให้กับประเทศ

รวมทั้งการ สร้างหนี้ให้กับคนรุ่นหลัง และการผลักดันโครงการใหญ่เกินตัว ไม่ผูกพันธ์กับวาระรัฐบาล ประชาชนคนไทยสมควรได้รับการบริหารงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ วิพากษ์วิจารณ์ได้ และเป็นรัฐบาลที่สะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์ ของพี่น้องประชาชน ที่เลือกผู้แทนราษฎรเข้ามา” นางมนพรกล่าว

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เร่งด่วน! "นย." ลุยสร้างถนนเลียบชายแดนไทย-กัมพูชา 15 กม. ส่งกำลังบำรุง-ลาดตระเวน ตรวจพบวัตถุระเบิด-ทุ่นระเบิด อื้อ
ดร.ฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดสัมมนาระดับชาติ ระดมสมองแก้ไขปัญหาผู้สูงอายุไทยในสังคม ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
“สมชัย” ชื่นชม “ศุภจี” แจงนโยบายพณ. สร้างมาตรฐานใหม่ ชี้ถึงเวลาต้องใช้มืออาชีพ มากกว่าให้โควตารมต.นักการเมือง
"มนพร" ซัดรัฐบาลเฉพาะกิจ มุ่งปิดคดี หวังผลประโยชน์ให้กับพวกพ้อง
เปิดไทม์ไลน์!! เตรียมเข้ายึดทวงคืนผืนป่าและฟื้นฟูป่าไม้บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว เริ่มดีเดย์ 3 ต.ค.นี้
ระทึก แก๊งเมียนมายกพวก ตะลุมบอนอริชาติเดียวกัน ดับ 2 สาหัส 1

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​