“เจี๊ยบ อมรัตน์” เหวี่ยงจัด ตะเพิด “จุลพงศ์” ไปลาออก สส.พรรคประชาชน ซัดทำน่าละอายขอโทษ “เนวิน” เหตุโดนฟ้องหมิ่น ใช้ข้อมูลเท็จกล่าวหาปมที่ดินเขากระโดง

"เจี๊ยบ"หัวร้อน! ไล่"จุลพงศ์"ลาออกซะ ทุเรศขอโทษเนวิน - "จุลพงศ์" แจงปมขอโทษ "เนวิน" ยุติคดีอาญา อภิปรายเขากระโดง ล่าสุดเปิดจดหมาย จุลพงศ์ สส.ปชน. ขอโทษ ‘เนวิน-ตระกูลชิดชอบ-ชาวบุรีรัมย์’ ยอมรับอภิปรายที่ดินเขากระโดงเป็นข้อมูลเท็จทั้งหมด พร้อมบริจาค รพ. 1 หมื่น ลงขอโทษหน้าเฟซบุ๊ก 7 วัน แสดงความรับผิดชอบ

“เจี๊ยบ อมรัตน์” เหวี่ยงจัด ตะเพิด “จุลพงศ์” ไปลาออก สส.พรรคประชาชน ซัดทำน่าละอายขอโทษ “เนวิน” เหตุโดนฟ้องหมิ่น ใช้ข้อมูลเท็จกล่าวหาปมที่ดินเขากระโดง – Top News รายงาน

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีตส.ฃส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ถึงกรณีนายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ทำหนังสือถึงนายเนวิน ชิดชอบ และ ครอบครัวชิดชอบ เพื่อขอโทษและแสดงความรับผิดชอบต่อการอภิปรายถึงที่ดินเขากระโดง ระหว่างการลงมติไม่ไว้างใจนายกฯ เพราะเป็นข้อมูลเท็จ

โดยนางอมรัตน์ ระบุว่า #ขอประนามความขี้ขลาดตาขาว ของนายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อผู้สร้างความน่าอับอายให้กับ #พรรคพรรคประชาชน ในเหตุการณ์นี้ นายจุลพงศ์ได้เคยอภิปรายเรื่องเขากระโดงเอาไว้ประมาณต้นปี 68 ทางพรรคไม่มีใครทราบว่าต่อมาถูกนายเนวินฟ้องหมิ่นประมาท

ความหวาดกลัว หรือจะความรู้สึกอื่นใดอีกไม่ทราบได้ ทำให้นายจุลพงศ์ตัดสินใจแอบไปทำหนังสือขออภัยต่อนายเนวินเงียบ ๆ ไม่บอกกล่าวใคร พร้อมทั้งบริจาคเงินให้รพ.บุรีรัมย์ 1 หมื่นบาท

สิ่งเลวร้ายที่รับไม่ได้คือ ในหนังสือขอโทษมีเนื้อหาโยนความผิดให้ทีมงานพรรค อ้างว่าตัวเองเป็นสส.ใหม่ไม่รู้เรื่อง ประมาณไร้เดียงสา ตนเพียงแสดงไปตามบทที่ทางพรรคจัดสรรมาให้เท่านั้น

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งข้อเท็จจริงคือ เนื้อหาต่าง ๆ ที่ทีมงานช่วยเตรียมให้กับ สส. เป็นเพียงส่วนสนับสนุนข้อมูล เพื่อทุ่นแรงให้กับผู้อภิปราย เช่น ลำดับเหตุการณ์ วันเวลาวันที่ ความคืบหน้าของประเด็นที่อภิปรายเท่านั้น เป็น fact คือทำหน้าที่เป็นฝ่ายสนับสนุนในประเด็นที่ สส.ต้องการนำไปใช้ประกอบการอภิปรายของตนเองเท่านั้น

ผู้อภิปรายเลือกประเด็นที่สนใจจะตรวจสอบเองไม่มีใครบังคับ นำข้อมูลต่าง ๆ ไปประมวลผลเพื่ออภิปรายด้วยความคิดและดุลยพินิจส่วนตัว ใส่ความถูก/ผิดเอาเองตามจริต อารมณ์และความเชื่อ เลือกใช้ลีลาถ้อยความหนักเบาในการอภิปรายเองทั้งสิ้น

แย่ไปกว่านั้นคือทำหนังสือขอโทษเงียบๆ ไม่แจ้งกับพรรคแล้วยังมากล้าอภิปรายซ้ำด้วยข้อมูลเดิมอีก ให้ถูกฉีกหน้ากลางสภา เสียศักดิ์ศรีและทุเรศมากมาย

นางอมรัตน์ ยังโพสต์อีกว่า ในยุครัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ตนและเพื่อน สส.ถูกฟ้องปิดปากกันไม่รู้กี่คดี ถ้ามันใช่ พูดกี่ครั้งก็ต้องยืนยัน ไม่ใช่คลาน เข่าแล้วเอามาพูดซ้ำอีก ก่อนฝากไปยังนายจุลพงศ์ว่าใครก็ได้ช่วยส่งไปให้นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนที ให้พิจารณาตัวเองลาออกไปซะ

  

 

ต่อมา นายจุลพงศ์ สส. แบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาชน โพสต์ข้อความชี้แจงถึงกรณีการส่งหนังสือขอโทษนายเนวิน ชิดชอบ โดยระบุว่า ตามที่ปรากฎในสื่อมวลชนว่าผมได้มีหนังสือขออภัยคุณเนวิน ชิดชอบ หนังสือดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเนื้อหาบางส่วนจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแพทองธารเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยไม่เกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่ของผมในการอภิปรายเรื่องเขากระโดงในวันนี้

ผมขอเรียนว่าหลังจากที่มีความพยายามในการดำเนินคดีกับผม การที่ผมขออภัยในคราวนั้น มีส่วนมาจากความต้องการของผมที่อยากให้คดีความอาญาอันเป็นอุปสรรคการทำงานในหน้าที่สส.ของผมจบลงโดยเร็ว

ผมจึงขออภัยกับประชาชนมา ณ ที่นี้ หากเหตุการณ์ดังกล่าวกระทบต่อมุมมองของประชาชนต่อการทำหน้าที่ของผม

อย่างไรก็ตาม ผมขอยืนยันว่าในการอภิปรายนโยบายของรัฐบาลวันนี้ ( 29 กันยายน 2568) ข้อมูลที่ผมอภิปราย เป็นความจริงทุกประการ และผม จะทำหน้าที่ต่อไปในฐานะผู้แทนราษฎรเพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล

 

ล่าสุดวันนี้ (29 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ทำหนังสือถึงนายเนวิน ชิดชอบ และครอบครัวตระกูลชิดชอบ เพื่อขอโทษและแสดงความรับผิดชอบต่อการอภิปรายเกี่ยวกับที่ดินเขากระโดง ที่ได้อภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2568

ที่เนื้อหาในการอภิปราย พาดพิงถึงครอบครัวตระกูลชิดชอบ เกี่ยวกับที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ เป็นข้อมูลเท็จ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงว่าใช้อิทธิพลทางการเมือง ขัดขวางหน่วยราชการในการปฏิบัติตามกฎหมายและคำพิพากษาของศาลฎีกา เพื่อยึดถือที่ดินเขากระโดงกว่า 5,000 ไร่ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อ้างว่าเป็นที่ดินของ รฟท.

นายจุลพงศ์ กล่าวว่า เนื้อหาที่ใช้อภิปรายเป็นไปตามสคริปต์ที่ทีมงานจัดทำให้ โดยตนเองเป็น สส.สมัยแรก และประมาทเลินเล่อไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และแผนที่ที่ได้รับจากการรถไฟฯ อย่างละเอียด จึงหลงเชื่อว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง หลังจากที่ได้รับทราบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจากผู้รับมอบอำนาจและทนายความของนายเนวิน ชิดชอบ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568

จึงได้เข้าใจอย่างชัดเจนว่า ครอบครัวตระกูลชิดชอบมิได้มีเจตนาที่จะครอบครองที่ดินเขากระโดงโดยผิดกฎหมายมาตั้งแต่ต้น และไม่เคยใช้อิทธิพลทางการเมือง บังคับให้หน่วยราชการดำเนินการใด ๆ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน และมีเจตนาที่จะปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อรักษากระบวนการยุติธรรมของประเทศ

“ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น จึงสำนึกผิดในการกระทำ และยอมรับว่าเนื้อหาการอภิปรายดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จทั้งหมด จึงขอแสดงความสำนึกผิด โดยขอแสดงความเสียใจและขออภัยอย่างสูงต่อ นายเนวิน ชิดชอบ ครอบครัวตระกูลชิดชอบทุกท่าน และชาวบุรีรัมย์

เพื่อแสดงความจริงใจในความสำนึกผิดในครั้งนี้ จะขอบริจาคเงิน 10,000 บาท เพื่อขอโทษแก่ประชาชนชาวบุรีรัมย์ที่ได้รับผลกระทบจากการอภิปรายของผม รวมทั้งเผยแพร่เนื้อหาตามหนังสือที่ขอโทษบนหน้าเพจเฟซบุ๊ก โดยปักหมุดไว้บนหน้าแรกเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 7 วัน หวังว่าท่านและครอบครัว จะเห็นความจริงใจและให้อภัยในการกระทำที่ผิดพลาดในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการกระทำผิดในฐานความผิดนี้ครั้งแรกในชีวิต

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนทดสอบ 'ร่มจับลม' ผลิตไฟฟ้าบนที่สูง ขนาด 5,000 ตร.ม.
คณะศรัทธาร่วมประกอบพิธีทำบุญอายุวัฒนมงคล 90 ปี 70 พรรษา พระครูวรธรรมาภิรม วัดศรีเมืองยู้ จังหวัดลำพูน
นักเรียน PWS ผงาด!! คว้าเหรียญทองศึกแห่งศักดิ์ศรี การแข่งขันกีฬานักเรียน เตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพ กระสาเกมส์ ปี 2569
ซีพีและบริษัทในเครือ ร่วมอัญเชิญไฟพระฤกษ์ซีเกมส์–อาเซียนพาราเกมส์ 2025 “บัวขาว บัญชาเมฆ” นักชกขวัญใจคนไทย เป็นผู้แทนนำวิ่ง พร้อมเหล่าผู้บริหาร พนักงาน จุดพลังใจคนไทย ในนามผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ
ททท.สำนักงานตราด ปิดฉากกิจกรรม ปั่นชมพระอาทิตย์ขึ้นสุดขอบประเทศไทยภาคตะวันออก
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจัดฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุของระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ กรณีอพยพเจ้าหน้าที่เหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหว เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้โดยสาร สายการบิน และผู้ประกอบการ พร้อมรับมือฟื้นฟูการให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​