เมื่อเวลา 21:00 น. ของวันที่ 16 ต.ค.64 ร.ต.อ.ถิรวัฒณ์ เยื่ยมอ่อน รอง สว.สส.สภ.กบินทร์บุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ภัยมูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทยกบินทร์บุรี ว่าได้มีอุบัติเหตุรถเทรลเลอร์เชี่ยวชนกับรถยนต์กระบะทำให้มีผู้เสียชีวิตได้ติดค้างในยานพาหนะ 1 ราย หลังจากได้รับแจ้งพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ แพทย์เวร ร.พ.กบินทร์บุรี และเจ้าหน้าอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสัจจะพุทธรรม กบินทร์บุรี ได้ลงตรวจสอบในพื้นที่ที่เกิดเหตุ

เบื้องต้นจากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุบนถนนสาย 33 สุวรรณสรณ์ สระแก้ว-กบินทร์บุรี มุ่งหน้าสี่แยกสามทหาร บริเวณยูเทิร์นตรงข้ามทางเข้าวัดบ้านไผ่ในพื้นที่ ม.8 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พบป้ายทะเบียนของรถยนต์กระบะและเศษชิ้นส่วนของรถกระจายเกลื่อนถนนบริเวณยูเทรินพบรถเทลเลอร์หัวลาก 20 ล้อ บรรทุกท่อน้ำ ยี่ห้อ HINO สีขาว ทะเบียนตัวแม่ 70-1125 สมุทรสงคราม ทะเบียนตัวลูก 70-1504 สมุทรสงคราม จอดอยู่ บริเวณตัวปั่นขาตั้งห่าง เก๊ะ ราวกั้นสุนัข และช่วงล่าง ของรถเทลเลอร์ บิดเสียหาย บริเวณกลางรถพบกับรถยนต์กระบะ อีซูซุดีแมคซ์ สีดำ 4 ประตู ป้ายแดง ทะเบียน ส 9728 กทม ได้พุ่งชนเข้าไปที่บริเวณกลางรถเทเลอร์หัวลากสภาพด้านหน้าของรถยนต์กระบะถูกอัดเข้ากับช่วงล่างของรถเทรลเลอร์หัวลากทำให้ด้านหน้าไปจนถึงบริเวณห้องผู้โดยสารยุบพังยับเยินเกือบทั้งคัน ภายในรถยนต์กระบะพบศพผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย รูปร่างเล็กตัดผมเกรียน สวมกางเกงยีนต์ขายาวสีดำสวมเสื้อยืดสีม่วงใส่เสื้อคลุมแขนยาวสีดำสวมรองเท้าผ้าใบสีฟ้าได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุโดยถูกอัดติดอยู่ภายในรถยนต์กระบะคันดังกล่าว


เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แพทย์เวรได้มีการตรวจ Agent Test ของผู้เสียชีวิตก่อนนำร่างออกมาจากยานพาหนะเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้ใช้เครื่องตัดถ่างและใช้รถยกลากรถยนต์กระบะออกจากใต้ท้องรถเทรลเลอร์ เพื่อจะนำร่างของผู้เสียชีวิตออกจากยานพาหนะใช้เวลา 1 ชั่วโมงกว่า จึงนำร่างของผู้เสียชีวิตออกจากยานพาหนะได้เป็นไปอย่างยากลำบากเพราะด้านหน้าของรถยนต์กระบะ ได้ถูกบริเวณด้านล่างของรถเทรลเลอร์หัวลากได้กดทับบริเวณด้านหน้ารถอยู่ จากการตรวจสอบภายในรถไม่พบเอกสารใดๆที่ระบุว่าเป็นชื่อของผู้เสียชีวิต พบเพียงหมวกของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในรถกระบะคันดังกล่าวด้วย คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ของ สภ.ใด สภ.หนึ่ง เจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบอีกครั้งว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร

จากการสอบถาม นายสุทธิพงษ์ แก้วคำจันทร์ อายุ 25 ปี (ผู้เห็นเหตุการณ์) กล่าวว่วตนขับรถมาจากสระแก้วแล้วรถยนต์กระบะคันนี้ได้ขี่แซงตนมา ตนยังพูดอยู่ว่าทำไมมาเร็วจังไม่เบรคเลยแต่พอมาเห็นอีกทีก็อยู่ตรงนี้แล้ว แต่รถเทรลเลอร์คันนี้เขาเลี้ยวจะพ้นแล้วแต่รถยนต์กระบะมาแบบไม่เบรกไม่มีรอยเบรคอะไรเลยเลยซัดตู้มเข้าไป

จากการสอบถาม นายวิทูรย์ เรียงมงคล (คนขับรถเทเลอร์) อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/20 ต.เหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี กล่าวว่าตนบรรทุกท่อน้ำมาจากชลบุรีจะไปส่งที่นครราชสีมา พอมาถึงที่บริเวณ 4 แยกสามทหารกบินทร์บุรี ได้เลี้ยวขวาเข้ามาตรง 4 แยกเพื่อมาทานข้าวหลังจากทานเสร็จตนได้ขึ้นรถขับออกมาเพื่อจะยูเทิอร์นกลับไปทางนครราชสีมา ก่อนที่ตนจะเลี้ยวรถตนได้เปิดไฟขอทางมาก่อนแล้ว ขณะที่กำลังเลี้ยวรถอยู่ตนมองดูอยู่ว่ารถกระบะคันนี้วิ่งมาแต่ยังอยู่ไกลอยู่ หลังจากที่ตนกำลังเลี้ยวรถอยู่ก็ได้มีรถกระบะขับเข้ามาชนรถของตน

ด้าน น.ส.ลัดดาวัลย์ พรมมาก อายุ 26 ปี กล่าวว่าตอนที่เราจะเลี้ยวเราก็ได้เปิดไฟเลี้ยวมา พอเลี้ยวรถได้เกือบจะถึงครึ่งตัวรถแล้วได้ยินเสียตู้มทีเดียวตนคิดว่ายางรถตัวเองแตก จึงได้ให้น้องชายลงไปดูพอน้องชายลงมาดูก็เดินมาบอกว่ารถ ก็เลยพากันลงมาดู ตอนที่เราจะเลี้ยวรถแฟนได้เห็นว่ารถกระบะคันนี้อยู่ไกลสุดเลย

เบื้องต้นภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุเผยให้เห็นว่ารถเทเลอร์หัวลากได้เปิดไฟให้สัญญาณเพื่อจะเลี้ยวยูเทิอร์นจังหวะนั้นยังไม่มีรถยนต์กระบะขับเข้ามา พอเลี้ยวไปได้เต็มลำแล้วได้มีรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ได้ขับพุ่งเข้ามาชนโดยที่รถยนต์กระบะคันดังกล่าวไม่มีการเบรคแต่อย่างใด
สาเหตุการเกิดเหตุในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป พร้อมกับประสานของญาติของผู้เสียชีวิตอีกครั้งเพื่อทำการสอบปากคำเพิ่มเติ่ม ก่อนที่จะมอบศพให้นำกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
ข่าว-ภาพ สายชล หนูแดง ทัตธน เหล่าหล้า สุพัตรา อาษา ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ปราจีนบุรี

