“ดร.ณัฏฐ์” ยันข้อกม.”ภูมิธรรม” ไม่มีสิทธิยุบสภา มอง “อนุทิน” ติดคดีฮั้วสว.อาจขัดคุณสมบัตินายกฯ

“ดร.ณัฏฐ์” ชี้ เกมแย่งชิงจัดตั้งรัฐบาล คนละหมัด ดับฝัน “อนุทิน” ขาดคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี ส่วน “ครม.รักษาการ” ไม่มีอำนาจ “ยุบสภา”

“ดร.ณัฏฐ์” ยันข้อกม.”ภูมิธรรม” ไม่มีสิทธิยุบสภา มอง “อนุทิน” ติดคดีฮั้วสว.อาจขัดคุณสมบัตินายกฯ – Top News รายงาน

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมีมติ 6:3 ให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง เพราะขาดคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี ตาม รธน. มาตรา 160 (4) (5) ทำให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตาม รธน. มาตรา 170 (4) ส่งผลให้คณะรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ตาม รธน.มาตรา 167(1) ทำให้ ครม.ต้องรักษาการต่อไป จนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่ ตาม รธน.มาตรา 168(1) ทำให้การเมืองภายในประเทศปั่นป่วนร้อนแรง ทั้งฝ่ายการเมืองแย่งชิงกันจัดตั้งรัฐบาล และภาคประชาชนจัดชุมนุมต่อต้านการจัดตั้งรัฐบาล

​ล่าสุด “ ดร.ณัฏฐ์” หรือ ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชนคนดัง ให้ความเห็นเพื่อประโยชน์สาธารณะและกล่าวว่า เกมแย่งชิงจัดตั้งฟอร์มทีมรัฐบาลชุดใหม่ เปลี่ยนม้ากลางศึก จะต้องเป็นไปตาม รธน. มาตรา 159 วรรคสาม จะต้องใช้เสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน สส.เท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร
​พูดภาษาชาวบ้าน คือ เกมแย่งชิงอำนาจจัดตั้งรัฐบาลไม่ เปลี่ยนม้ากลางศึก เป็นลักษณะการเมือง 3 ก๊ก ระหว่าง แดง – ส้ม -น้ำเงิน แกนนำพรรคการเมืองใด รวบรวมเสียง สส.ที่มีอยู่ในสภาได้มากกว่า ครึ่งหนึ่งของจำนวน สส.ที่มีอยู่ ฝ่ายนั้นชนะ ได้เป็นรัฐบาลเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะแต่ละพรรคการเมืองชนะเลือกตั้งเสียงที่ได้มาไม่ขาด ทำให้ต้องพึ่งพารัฐบาลผสมเกิดจากการออกแบบระบบเลือกตั้งบัตรสองใบ ​แต่ที่มาของนายกรัฐมนตรี ต้องเป็นไปตาม รธน. มาตรา 158 วรรคสอง ประกอบมาตรา 159 วรรคหนึ่ง โดยเงื่อนไขหลัก ว่าที่นายกรัฐมนตรีแต่ละพรรคการเมืองต้องมาจาก รธน.มาตรา 88

 

ดังนั้น “นายกรัฐมนตรีคนนอก” หรือ”นายกรัฐมนตรีพระราชทาน” เหมือนในอดีต จึงไม่อาจเกิดขึ้นได้ เงื่อนไขว่าที่นายกรัฐมนตรี เฉพาะบัญชีรายชือจากพรรคการเมืองที่ได้รับเลือกเป็น สส.ไม่น้อยกว่าร้อยละห้าของจำนวน สส.ที่มีอยู่ของสภา หรือไม่น้อย 25 คน โดยถือ จำนวน สส.ปัจจุบันที่มีอยู่ มิใช่นับวันประกาศผลการเลือกตั้ง แต่ข้อ สาระสำคัญ มาตรา 159 วรรคหนึ่ง นายกรัฐมนตรี จะต้องมีคุณสมบัติ ตาม รธน.มาตรา 160  ​คุณสมบัตินายกรัฐมนตรี มีหลายข้อและเป็นข้อห้ามหลัก เป็นไป ตาม รธน. มาตรา 160 รัฐมนตรีจะต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่ประจักษ์ หรือ ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง หรือ ไม่มีคุณลักษณะต้องตามมาตรา 98 เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 เหตุที่เป็นเช่นนี้ กำหนดคุณสมบัติในลักษณะกว้าง เป็นผลผลิตจากรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง

ข่าวที่น่าสนใจ

 

 

หากพิจารณาคุณสมบัติของ “นายอนุทิน ชาญวีรกุล” หัวหน้าพรรคภูมิใจ และเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีตาม รธน.มาตรา 88 ประกอบมาตรา 159 วรรคหนึ่ง หากพิจารณาถึงคุณสมบัติของ นายอนุทินฯ ถูกคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน กกต.ชุดที่ 26 แจ้งข้อหาร่วมกันทุจริตการเลือก สว. หรือที่เรียกกันว่า “คดีฮั้ว สว.” แม้คดีจะไม่ถึงที่สุด โดยไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม รธน. มาตรา 160(6) ประกอบมาตรา 98 ก็ตาม ย่อมต้องพิจารณาคุณสมบัติในข้ออื่นประกอบการพิจารณาด้วย

​แม้คดีฮั้ว สว.ที่นายอนุทินฯ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ถูกแจ้งข้อหา และคดียังไม่ถึงที่สุดก็ตาม ไม่เข้าข้อห้าม รธน.มาตรา 98 ก็ตาม แต่เข้าเงื่อนไขข้อห้ามขาดคุณสมบัติในปัญหาข้อกฎหมายในเรื่อง ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ หรือไม่ หรือมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง หรือไม่ จะเป็นปัญหาย้อนกลับไปที่ตัวนายอนุทินฯโดยตรง

หากพิจารณา กรณีข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน กกต.ชุดที่ 26 แจ้งข้อหาแก่ นายอนุทินฯ ในการร่วมกันทุจริตการเลือก สว. ตาม พรป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.มาตรา 77(1) และ เข้าข่ายสมคบกันฟอกเงิน และอั้งยี่ จึงมีลักษณะเข้าข่ายหลักเกณฑ์ “ขาดคุณสมบัติ” เป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160(4) และ (5) โดยนายอนุทินฯ เป็นหนึ่งในจำนวน 229 คน ที่ถูกแจ้งข้อหาแล้ว แม้คดีไม่ถึงที่สุดก็ตาม แต่พฤติกรรมพัวพันและละเมิดจริยธรรมเป็นความหมายกว้างกว่า จึงเข้าข่ายลักษณะมีพฤติกรรมฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงตาม รธน.มาตรา 160 (5) กระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติก่อนทูลเกล้าฯ เป็นอำนาจหน้าที่ของ “เลขาธิการ ครม.”ฝ่ายข้าราชการประจำและเป็นปัญหาข้อเท็จจริงไปสู่ข้อกฎหมาย ที่เรียกว่า “ปัญหาข้อเท็จจริง” จะต้องส่งให้องค์กร กฤษฎีกาตีความ ก่อนที่จะเสนอรายชื่อนายอนุทินฯทูลเกล้าฯ

 

​ การฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมหรือละเมิดจริยธรรม เป็นความหมายกว้างกว่าและครอบคลุมกว่าผลในคดีอาญา ตามมาตรฐานจริยธรรมฯ 2561 ในหมวดหนึ่ง ว่าด้วยจริยธรรมว่าด้วยอุดมการณ์และเป็นจริยธรรมร้ายแรง ข้อ 27 ถือเป็นส่วนหนึ่งของคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี แม้คดีฮั้ว สว.จะยังไม่สิ้นสุด และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160(6) ประกอบมาตรา 98 ก็ตาม แต่อย่าหลงประเด็น เพราะถือเป็นคุณสมบัติคนละข้อกัน คนละส่วนแยกต่างหากจากกัน

แต่หากฝ่ายการเมือง ไม่ยึดหลักกฎหมาย จะมีปัญหาภายหลัง โปรดเกล้าฯ นายอนุทินฯ เป็นนายกรัฐมนตีแล้ว อาจพบปัญหา มีมือดีใช้ช่อง สส.หรือ สว.ไม่น้อยกว่า หนึ่งในสิบยื่นคำร้องต่อประธานสภาแห่งนั้น สงสัยว่า สมาชิกภาพความเป็นนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตาม รธน.มาตรา 170 วรรคสามประกอบ 82 วรรคหนึ่ง ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดให้พ้นจากตำแหน่งได้ ไม่จำต้องรอให้บริหารประเทศถึง 4 เดือนแล้ว ยุบสภานับแต่วันที่แถลงนโยบายต่อสภา ส่วนที่ถามว่า ครม.เดิม รักษาการจนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่ ตามมาตรา 168(1) มีอำนาจยุบสภาได้หรือไม่

​ดร.ณัฏฐ์ อธิบายว่า รัฐธรรมนูญไม่ได้มีบทบัญญัติกฎหมายห้ามไว้ แต่ต้องพิจารณาว่า มีกฎหมายรองรับไว้หรือไม่ กลไกรัฐธรรมนูญในมาตราใด โดยหลักกฎหมายมหาชน หากรัฐธรรมนูญไม่ได้บัญญัติห้ามไว้ ย่อมไม่สามารถกระทำได้ แตกต่างจากกฎหมายเอกชน ไม่มีข้อห้ามไว้ ย่อมกระทำได้ เป็นข้อแตกต่างกัน อย่าสับสน

การยุบสภา กลไกรัฐธรรมนูญในระบบรัฐสภา เป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ตาม รธน.มาตรา 103 วรรคหนึ่ง โดยใช้กฎหมายในระดับ“พระราชกฤษฎีกา” เป็นอำนาจเฉพาะของหัวหน้าฝ่ายบริหารเท่านั้นในระบบรัฐสภา หัวหน้าฝ่ายบริหาร เป็นอำนาจเฉพาะตัวของนายกรัฐมนตรีที่จะเสนอทูลเกล้าฯตรากฎหมายเป็น “พรฎ.ยุบสภา” เป็นการใช้อำนาจตาม รธน.แม้ พรฎ.ยุบสภาตราโดยหัวหน้าฝ่ายบริหาร จะมีสถานะต่ำกว่า “พรบ.” โดยองค์กรตุลาการที่มีอำนาจ ตรวจสอบการใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ เป็นอำนาจเฉพาะของ “ศาลรัฐธรรมนูญ” มิใช่ “ศาลปกกครอง”  ทั้ง พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชอำนาจยับยั้งก็ได้ หากพระองค์ท่านทรงเห็นว่า ไม่เข้าเงื่อนไข พรฎ.ยุบสภาและขัดต่อกฎหมาย เป็นไปตามกลไก รธน.มาตรา 175 ประกอบมาตรา 103 วรรคหนึ่ง  พูดภาษาชาวบ้าน พรฎ.ยุบสภา เป็นกฎหมายสถานะต่ำกว่าพระราชบัญญัติ เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะเสนอทูลเกล้าและเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ทรงยับยั้งได้ หากขัดต่อกฎหมาย และไม่มีกฎหมายรองรับไว้

 

 

ส่วน ที่หลายฝ่ายถกเถียงกัน ว่า นายกรัฐมนตรีรักษาการ “ยุบสภาได้” บ้าง “ไม่อาจยุบสภาได้” บ้าง ทำให้สังคมสับสน ต้องยึดหลักกฎหมายและกลไกรัฐธรรมนูญ จะอ้างประเพณีการปกครองไม่ได้​ฐานในมิติทางกฎหมาย ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่ง ส่งผลให้ ครม.พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ “ครม.เดิม รักษาการต่อไปได้ จนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่” กรณีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่งเพราะขาดคุณสมบัติตาม รธน.มาตรา 160 จะรักษาการนายกรัฐมนตรีต่อไปไม่ได้ ตาม รธน.มาตรา 168(1)

แม้ ครม.เดิมได้เขียนข้อยกเว้นให้มีอำนาจเต็มในหนังสือมอบอำนาจให้รักษาการนายกรัฐมนตรีแทนไว้ก็ตาม เป็นเพียงเฉพาะกรณีนายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้เท่านั้น แต่พ้นจากตำแหน่งเพราะขาดคุณสมบัตินำมาใช้ไม่ได้ ดังนั้น กรอบเวลา ครม.เดิม มีอำนาจเฉพาะรักษาการต่อไป มีอำนาจเต็มเฉพาะบริหารบ้านเมืองชั่วคราว จนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่ ตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 168(1) ประกอบมาตรา 161 วรรคสอง หมายความว่า เจตนารมณ์ รัฐธรรมนูญ มาตรา 168(1) ให้ ครม.รักษาการในตำแหน่ง จนกว่าจะ มี ครม.ชุดใหม่เท่านั้น เพื่อป้องกันสุญญากาศทางการเมืองชั่วคราวเท่านั้น นายภูมิธรรมฯ รักษาการนายกรัฐมนตรี ไม่มีอำนาจ “ยุบสภา”

​อธิบายภาษาชาวบ้านว่า ครม.เดิม รักษาการ ต้องรักษาการไปพลางก่อน จะไปใช้อำนาจเสนอกฎหมาย พรฎ.ยุบสภา ต่อพระมหากษัตริย์ไม่ได้ หากฝ่าฝืนยื่นไป พระองค์ทท่านทรงใช้พระราชอำนาจยับยั้งก็ได้กระบวนการบริหารประเทศของ ครม.เดิม ชั่วคราว ยังมีอำนาจในการแต่งตั้ง โยกย้ายข้าราชการประจำ อนุมัติงบประมาณได้ เป็นต้น ไม่มีข้อห้าม แตกต่างจาก กรณีนายกรัฐมนตรีลาออกหรือยุบสภา เพราะมีข้อจำกัดไม่อาจกระทำได้ บัญญัติไว้ในมาตรา 169 ประกอบมาตรา 167(2) เพราะต้องอยู่ภายใต้กำกับควบคุมโดย “กกต.”  ​ส่วนที่ถามว่า ฟอร์มทีมรัฐบาลใหม่ ผลจะจบอย่างไร นั้น

​ดร.ณัฏฐ์ อธิบายว่า คณิตศาสตร์ทางการเมืองที่แต่ละฝ่ายออกตัวแรงและประกาศจับมือจัดตั้งรัฐบาลนั้น หากเปรียบเทียบในครั้งที่ผ่านมาใช้เวลา 3 วัน แต่ครั้งนี้อาจเรื้อรัง ยังจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพราะมีตัวแปรเสียงจากพรรคประชาชนจำนวน 142 เสียง จะยกมือให้ใคร แต่พรรคประชาชนมีเป้าหมายให้ยุบสภา เพราะขณะนี้มีคะแนนนิยมสูงกว่าทุกพรรคการเมือง และเป้าหมายไม่เข้าร่วมรัฐบาล ส่งผลให้ ครม.เดิม รักษาการในตำแหน่งต่อไปโดยไม่มีกำหนด จนกว่าจะครบอายุสภาผู้แทนราษฎร แต่ในขณะเดียวกัน ภาคประชาชนเริ่มชุมนุมเรียกร้องควักมือทหารเข้ามายึดอำนาจรัฐประหารแก้ไขปัญหาของประเทศ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"หมอวรงค์" จัดหนักปชน.สร้างเงื่อนไขทำร้ายปท. ลั่นแค่ทำให้ตัวเองดูดี แต่หนีรับผิดชอบไม่ได้
"แป้งเย็นตรางู" ชวนเยาวชนคิด สร้างสรรค์แคมเปญลดโลกร้อน "Cool The World"
"นฤมล" หารือสภาการศึกษาเอกชน รับฟังปัญหาข้อกม.ครูต่างชาติ พร้อมปรับแก้ไขให้เหมาะสม
เชียงใหม่ ผบช.ภ.5 แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีสิ่งเสพติดรายสำคัญ 4 คดี ยึด 8.6 ล้านเม็ด ICE 450 กก.
ศูนย์หม่อนไหมฯ โคราช เตือนภัยโรคหนอนไหมระบาดหน้าฝน แนะวิธีป้องกันลดความเสียหาย
“อนุทิน” ไม่ก้าวก่าย “ปชน.” หนุนใครนั่งนายกฯ ลั่นเป็นคนจริงใจ ขอยึดตาม TOR เจรจาพรรคส้ม

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​