วินจยย.-แท๊กซี่ เฮ! หลังครม.อนุมัติเงินช่วยเหลือ

หลังจากที่ ครม. เห็นชอบโครงการช่วยเหลือผู้ขับขี่รถรับจ้าง คือ แท็กซี่ รถจักรยานยนต์รับจ้าง ที่มีอายุเกิน 65 ปี ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) อนุมัติงกรอบวงเงิน 166.94 ล้านบาท กลุ่มเป้าหมาย ผู้ขับรถแท็กซี่ 12,918 ราย และผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง 3,776 ราย ภายใต้เงื่อนไข ไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ในระบบประกันสังคม และจพต้องมีการดำเนินการตรวจสอบข้อมูลผู้ประกอบอาชีพขับรถยนต์รับจ้าง (รถแท็กซี่) และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่มีอายุเกิน 65 ปี จากฐานข้อมูลใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ (รถแท็กซี่) และใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกจะจ่ายเงินด้วยวิธีการโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ (Promptpay) เฉพาะการผูกบัญชีกับเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือตามวิธีการอื่นที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด คาดว่าจะจ่ายเงินรอบแรกระหว่างวันที่ 8-12 พ.ย. และจ่ายเงินรอบที่ 2 ระหว่างวันที่ 22-26 พ.ย.

วันนี้ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ได้ลงพื้นที่ไปสำรวจผู้ประกอบอาชีพขับรถยนต์รับจ้าง(รถแท็กซี่) และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่อนุเสาวรีย์สมรภูมิ โดยทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายสอ วาสิทธิ์ คนขับรถแท๊กซี่ พบว่า คุณสอขับรถแท๊กซี่มานานกว่า 30 ปี ตอนนี้ตนเองอายุ 66 ปีแล้ว ที่ผ่านมาหลังเกิดสถานการณ์โควิด-19 ลูกค้าก็ลดลงมาก อีกทั้งตนเองไม่ได้เป็นผู้ประกันตน จึงได้รับผลกระทบเรื้องรายได้พอสมควร แต่ที่ผ่านมาก็เคยได้รับเงินเยียวยาจากภาครัฐไปเมื่อช่วงที่เกิดโควิด-19 แรกๆกว่า 15,000 บาท และได้ยินว่าภาครัฐจะอนุมัติเงินให้คนขับรถรับจ้างขนส่งอีก ซึ่งตนเองก็ติดตามข่าวมาโดยตลอด และรู้สึกดีใจที่รู้ว่าครม.อนุมัติเงินให้แล้ว และไม่ได้มองว่าข้อจำกัดของอาชีพและอายุ เพราะทุกคนต่างก็ได้รับเงินเยียวยาจากภาครัฐ ตามอายุและอาชีพอยู่แล้ว

ด้านนายสมชาย พิสารเขต วินรถจักยายนต์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมาตนเองมีได้รับเพียงเงินผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาท ไม่ได้เป็นผู้ประกันตน จึงไม่ได้รับเงินเยียวยาอะไรเลย ทั้งที่ผ่านมาสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ลูกค้าลดลง แทบไม่มีรายได้ ทั้งที่ตนเองขับรถจักรยานยนต์รับจ้างมานานกว่า 20 ปี แต่พอรู้ว่าภาครัฐอนุมัติเงินช่วยเหลือคนขับรถรับจ้างที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ก็รู้สึกสบายใจ แต่มองว่ารัฐไม่ควรตั้งกรอบหรือข้อจำกับของอาชีพ เพราะผู้สูงอายุส่วนใหญ่นอกจากไม่มีอาชีพแล้ว เงินสวัสดิการผู้สูงอายุเพียง 600 บาทไม่สามารถใช้ได้ทั้งเดือน จึงอยากให้ภาครัฐอย่ากรอบอาชีพ ของผู้สูงอายุ เพราะทุกคนต่างก็ประสบปัญหาเหมือนกัน

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“นฤมล” ยืนยัน พรรคกล้าธรรม ยังสนับสนุน“นายกฯ” ทำงานต่อ ขอคนไทยสามัคคี อย่าหลงเกมกัมพูชา ช่วยกันส่งกำลังใจให้ทหารแนวหน้า
ซีพีประกาศจุดยืน “องค์กรแห่งความหลากหลาย” เดินหน้ายกระดับนโยบาย DEI และสิทธิมนุษยชน สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานสากล
"ประเสริฐ" กางข้อมูล-หลักฐาน ซัด "กัมพูชา" เป็นแหล่งอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติใหญ่สุดในโลก
“ไตรศุลี” หอบใบลาออก 5 รมต.ภูมิใจไทย ยื่นนายกฯ มีผลทันที
“ประเสริฐ” พร้อมนั่ง "มท.1" ย้ำสัมพันธ์พรรคร่วมรบ.แน่นปึ้ก
วิบากกรรม “ตระกูลชินวัตร” จบไม่สวยกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
พรุ่งนี้ “นายกฯ” ลงพื้นที่ชายแดน ช่องบก อุบลฯ นัดหมายคุยต่อหน้า “แม่ทัพภาคที่ 2”
ด่านคลองลึก คุมเข้มการเดินทางออกไปยังฝั่งปอยเปตอย่างเข้มงวด โดยแม่ทัพภาคที่ 1 เตรียมลงพื้นที่ จ.สระแก้ว
"ภูมิธรรม" มั่นใจพรรคร่วมฯเดินหน้าบริหารปท.ต่อ เหน็บ "ภท." ไม่เข้าใจสถานการณ์ ร้องขออย่าขยายขัดแย้ง
ไม่หวั่น ! การสู้รบบริเวณชายแดนเชื่อทหารสามารถปกป้องได้ยอมรับกลัวได้ยินเสียงปืนฝั่งเพื่อนบ้านแต่ไม่หนี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น