“สหรัฐ” ร่วมฉลอง “วันชาติโมร็อกโก” ให้คำมั่น ยังพร้อมสนับสนุนอำนาจอธิปไตยของ “โมร็อกโก” บนพื้นที่ซาฮาร่า

"สหรัฐ" ร่วมฉลอง "วันชาติโมร็อกโก" ให้คำมั่น ยังพร้อมสนับสนุนอำนาจอธิปไตยของ "โมร็อกโก" บนพื้นที่ซาฮาร่า

“สหรัฐ” ร่วมฉลอง “วันชาติโมร็อกโก” ให้คำมั่น ยังพร้อมสนับสนุนอำนาจอธิปไตยของ “โมร็อกโก” บนพื้นที่ซาฮาร่า

ข่าวที่น่าสนใจ

วันชาติโมร็อกโก ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกายังคงให้การสนับสนุนเต็มที่ในอำนาจอธิปไตยของโมร็อกโกบนพื้นที่ซาฮาร่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาส่งจดหมายถึงสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งโมร็อกโก เนื่องในโอกาสวันชาติโมร็อกโก ซึ่งเนื้อหาใจความของจดหมาย ถือเป็นพัฒนาการที่มีความสำคัญยิ่ง

โดยกล่าวว่า สหรัฐอเมริกาให้การยอมรับอำนาจอธิปไตยของโมร็อกโกบนพื้นที่ซาฮาร่า และให้การสนับสนุนเต็มที่กับแผนการปกครองตนเองที่เสนอโดยโมร็อกโก ซึ่งถือว่าเป็นแผนการเดียวที่อยู่บนพื้นฐานของความยุติธรรม และมีความยั่งยืนในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ในระดับการเมือง การย้ำถึงจุดยืนนี้ ถือเป็นการยืนยันการสนับสนุนซึ่งสหรัฐอเมริกาได้เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนธันวาคม ปี ค.ศ.2020 ซึ่งส่งผลให้ประเทศอื่นๆ ดำเนินการสนับสนุนแผนการปกครองตนเองนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งสมเด็จพระราชาธิบดีตรัสว่าแผนการนี้ ไม่มีผู้ใดชนะหรือแพ้ แต่เป็นทางออกที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเห็นพ้องต้องกัน ประเทศอื่น ๆ ที่ให้การสนับสนุนแผนการปกครองตนเองนี้ ต่อจากสหรัฐอเมริกาคือ อดีตประเทศเจ้าอาณานิคมอย่างสเปนและฝรั่งเศส รวมถึงสหราชอาณาจักร ที่ถือเป็นประเทศสมาชิกถาวรของสภาความมั่นคงแห่งสหรัฐประชาชาติ ลำดับที่3 ที่ให้การสนับสนุนแผนการนี้

 

 

นอกจากนั้น ยังมีประเทศโปรตุเกส รวมถึงประเทศในฝั่งยุโรป แอฟริกา เอเชีย อาหรับ และลาตินอเมริกา ข้อความในจดหมายของประธานาธิบดีทรัมป์ แสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้นำอีกครั้งหนึ่งของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ในการส่งเสริมการเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งของโมร็อกโก ที่ร่วมกันรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ และความมั่นคง รวมถึงการจัดการการก่อการร้าย ซึ่งถือเป็นด้านสำคัญในความร่วมมือของทั้งสองประเทศ ในระดับเศรษฐกิจ สหรัฐอเมริกามีการลงทุนในหลายโครงการในภูมิภาค ซึ่งจะเป็นการปูทางไม่เฉพาะต่อนักลงทุนชาวอเมริกัน และเพื่อนักลงทุนจากประเทศอื่นๆ เพื่อจะได้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งประเทศโมร็อกโกต้องการทำให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจในจังหวัดต่างๆ ทางตอนใต้ของประเทศ

 

ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวในจดหมายว่า ต้องการเน้นย้ำการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและโมร็อกโก และส่งเสริมบทบาทของประเทศในแอฟริกาเหนือ ให้มีบทบาทสำคัญในเรื่องต่างๆ ทั้งระดับภูมิภาค และนานาชาติ

 

 

Morocco’s Throne Day : The US President Renew its Full Support to the Moroccan Sovereignty over the Sahara

 

 

In a very significant development, US President, Donald Trump addressed a letter to the King of Morocco, on the occasion of the Throne Day, in which he reiterated the US recognition of Moroccan sovereignty over the Sahara and its full support to the Kingdom’s proposal of the Autonomy Plan “as the only basis for a just and lasting solution to the dispute”.

On the political level, this reaffirmed position, already expressed by the US in December 2020, opens the way for the remaining other few countries to follow and support Morocco’s Autonomy Plan which was described by the Moroccan Monarch as a consensual solution with no winner nor looser and that saves the face of all the parties.

it is worth mentioning that following the USA, many countries supported Morocco’s Autonomy Plan such as the two former colonial powers, Spain and France, as well as the United Kingdom, being the 3rd Permanent Member of the UN Security Council to do so, and Portugal along with many other European, African, Asian, Arab and Latin American countries.

President Trump’s message shows the lead once again in expressing the US government’s commitment to reinforcing the already strong and enduring partnership with Morocco in which promoting peace and stability as well as combatting terrorism stand as one of their key cooperation areas.

On the economic level, the US government’s efforts to implement significant investment projects in the region will pave the way not only for US investors but for other countries to benefit from the many opportunities offered by Morocco in its endeavor for the economic development of its Southern Provinces .

Through his letter, President Trump emphasised the growing strategic partnership between the United States and Morocco and reinforces the North African country’s role as an important key player in both regional and international matters.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"EOD-กก.ตชด. 21" เข้าตรวจพิสูจน์-เก็บกู้-ทำลายระเบิดตกค้าง จังหวัดสุรินทร์
ครั้งแรก อำเภอพิมาย เตรียมจัดงานวิ่งกลางคืนสุดคลาสสิค สัมผัสมนต์สเน่ห์ของปราสาทหินโบราณ ในวันที่ 13 กันยายน 2568 นี้
วัดโสธรวราราม วรวิหาร มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย 4 จังหวัดชายแดนไทย กัมพูชา จังหวัดละ 1 ล้านบาท
สระแก้ว เขมรกลับบ้านส่วนใหญ่บอกว่าญาติโทรมาบอกให้กลับ แต่ไม่ยืนยันว่า รัฐบาลจะยึดบ้าน ที่ดิน หรือตัดสิทธิต่าง ๆ จริงหรือไม่
‘บิ๊กเต่า’ จ่อเรียกสอบ ‘พระเลขา-ไวยาวัจกร’ วัดม่วง พบเจ้าอาวาสคุมเงินเบ็ดเสร็จ
"อ.แก้วสรร" ถอดรหัสร้อน "กัมพูชา"เคลื่อนไหว จับมือกองทัพสหรัฐ ชี้"สุวรรณภูมิ"อาจกลายเป็นนรกภูมิ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​