ศบ.ทก. แถลงประณาม “กัมพูชา” ใช้ทุ่นระเบิดหวังผลสังหารบุคคล จ่อร้องเวทีโลกละเมิดกฎร้ายแรง สั่งจัดชุดดูแลความปลอดภัยนทท.ไทย เยือนปราสาทเมือนธม
ข่าวที่น่าสนใจ
21 ก.ค.2568 ที่ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษก ศบ.ทก ได้แถลงผลการประชุมคณะกรรมการ ศบ.ทก. ชุดใหญ่ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่าประเด็นที่ 1 กรณีที่พลทหารเหยียบกับระเบิดในการลาดตระเวน จากฐานมรกตไปเนิน 481 เป็นพื้นที่ของอธิปไตยไทย ทางการไทยได้จัดหน่วยผู้เชี่ยวชาญด้านกู้กับระเบิดเข้าไปพิสูจน์ พบว่าพื้นที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากเส้นปฏิบัติการ 130 เมตร “จุดวางทุ่นระเบิดอยู่บนเส้นทางลาดตระเวนของฝ่ายไทยที่ปฏิบัติตามปกติ ในการลาดตระเวนตามแนวชายแดน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสุดวิสัย” หลุมระเบิดกว้าง 69 เซนติเมตร ลึก 23 เซนติเมตร พบเศษวัสดุของระเบิด PMN-2 และพบอีก 2 จุด จุดแรกอยู่ห่างจากต้นพญาสัตบรรณ 50 เมตร ใกล้คูเลตที่ทหารกัมพูชาเคยขุดไว้ พบอีก 3 ทุ่นระเบิด จุดที่ 2 พบเพิ่ม 5 ทุ่น ห่างจากจุดแรก 100 เมตร รวมทั้งหมด 7 ทุ่นระเบิด ทั้งหมดเป็นระเบิดแบบเดียวกัน สภาพใหม่พร้อมทำงาน “ประเทศไทยและกองทัพไทย ไม่เคยมีในสารระบบยุทโธปกรณ์ และหลักฐานที่ชัดเจนคือสภาพจุดวางระเบิดไม่มีวัชพืชหรือรากไม้ขึ้นปกคลุม พบร่องรอยของการขุดวางทุ่นระเบิด”
อีกทั้งวันที่ 20 กรกฎาคม ตรวจพบอีก 2 จุด เป็นระเบิดชนิดเดียวกัน ห่างจากจุดเกิดเหตุ 20-30 เซนติเมตร มีการวางเพิ่มเติม มีเป้าหมายเพื่อสังหารบุคคล และละเมิดอนุสัญญาออตตาวา เป็นการลุกลามอธิปไตยไทย ทำให้กองทัพได้ยกระดับมาตรการการปฎิบัติที่เข้มข้นขึ้น เพิ่มความระมัดระวังในการลาดตระเวนพื้นที่ และเตรียมความพร้อมสูงขึ้น นอกจากนี้ กองทัพไทย โดยศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ได้ออกหนังสือประณามการกระทำดังกล่าวอย่างชัดเจน ซึ่งกองทัพยังมีวาระจะเชิญผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารและกองทัพจากประเทศต่าง ๆ มารับฟังคำชี้แจง
สำหรับประเด็นที่ 2 กรณีปราสาทตาเมืองธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ วันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา ฝ่ายไทยและกัมพูชาได้ร่วมหารือป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์กระทบกระทั่งระหว่างนักท่องเที่ยวทั้งสองฝ่าย จะให้เจ้าหน้าที่หรือชุดประสานงานของชาตินั้นเป็นผู้จัดการ จะเชิญนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ ซึ่งชุดประสานงานมีทหาร 7 นาย ให้เป็นผู้ดำเนินการแก้ไขปัญหา ไม่มีการเรียกกำลังเสริมหรือชุดอื่นมาเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งขอให้ทั้งสองฝ่ายดำเนินการคัดกรองนักท่องเที่ยวก่อนจะขึ้นมาเยี่ยมชมปราสาท โดยมีผลบังคับใช้แล้ว ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกัน และฝ่ายไทยได้กำหนดมาตรการเพิ่มเติมในการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ได้จัดชุดอาสาสมัครและทหารพรานหญิงมาอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม
ด้านการต่างประเทศ นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า ทุ่นระเบิดที่ตรวจพบไม่มีการใช้และไม่อยู่ในคลังอาวุธของไทย สรุปว่าเป็นการวางระเบิดสังหารบุคคลจากฝ่ายกัมพูชา เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง กระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์และขอย้ำว่า
รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลโดยฝ่ายกัมพูชา เป็นเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพดินแดนไทย เป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ระบุไว้ใน UN และเป็นการละเมิดพันธะกรณีห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลออตตาวา เพื่อรักษาท่าทีและผลประโยชน์ของไทยในเวทีระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการโดยการประท้วงอย่างเป็นทางการ เป็นลายลักษณ์อักษรไปยังฝ่ายกัมพูชา เป็นการละเมิดหลักกฎหมายระหว่างประเทศและมนุษย์มนุษยธรรม รวมถึงการใช้เครื่องสังหารบุคคล ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บถึงขั้นทุพพลภาพ และกระทรวงการต่างประเทศจะเดินตามการอนุสัญญาออตโตวา ที่มีความรับผิดชอบระหว่างประชาคม จะต้องแจ้งการละเมิดอนุสัญญาต่อประธานการประชุม และภาคีอนุสัญญาที่ญี่ปุ่นเป็นประธาน เพื่อให้กัมพูชารับผิดชอบ
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศ จะชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นให้ประเทศและองค์การต่างๆ รับทราบ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่มีบทบาทสำคัญต่อภารกิจด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของกัมพูชา เช่น ญี่ปุ่นและนอร์เวย์ รวมถึงองค์การต่างๆ ที่มีบทบาทในเวทีสัญญาออตโตวา เราจะจัดการบรรยายของคณะทูตในเรื่องนี้ และสัปดาห์นี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืนที่นครนิวยอร์ก จะหารือกับผู้แทนระดับสูงจากประเทศต่าง ๆ เพื่อยืนยันจุดยืนของไทยต่อประชาคมโลก โดยเฉพาะหลักการของไทยที่มุ่งเน้นโดยสันติวิธีและการเจรจาผ่านกรอบทวิภาคี
ไทยขอเรียกร้องกัมพูชาให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เพื่อมนุษยธรรมตามแนวชายแดน ตามที่นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้ตกลงกันภายในกรอบทวิภาคี เพื่อความมั่นคงและปลอดภัยของพื้นที่ และของประชาชนของทั้งสองฝ่าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น