ตำรวจหนุ่มหัวใจเกษตร เปลี่ยนไร่มันสำปะหลัง เป็นสวนทุเรียน ทำการเกษตรแบบผสมผสาน สร้างครอบครัวอยู่ดีมีสุข ไม่ต้องรอเกษียณ

ส.ต.อ.เอนก สุระ  กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า เดิมที่คุณพ่อคุณแม่ทำไร่มันสำปะหลัง แต่ราคาไม่ค่อยดีนัก จึงได้ปรึกษากันว่าจะลองทำเกษตรแบบผสมผสาน โดยเริ่มต้นจากการขุดบ่อเลี้ยงปลา มีทั้งปลานิล ปลาดุก ปลาตะเพียน เลี้ยงไก่บ้าน ปลูกมะนาว ข่า ตะไคร้ ต้นมะกรูด และผักสวนครัวที่สามารถเก็บกินได้โดยไม่ต้องไปซื้อที่ตลาดทุกอย่าง  อีกทั้งยังจับไก่บ้าน จับปลาขายให้กับชาวบ้านได้อีก  ต่อมามีโอกาสได้ไปเยี่ยมญาติพี่น้องที่จังหวัดศรีสะเกษ เห็นเขาปลูกทุเรียนแล้วประสบความสำเร็จ ญาติๆก็แนะนำให้ปลูกทุเรียน  ซึ่งตนคิดว่าน่าจะทดลองปลูกทุเรียนดูบ้าง จึงได้ปรับพื้นที่จำนวน 8 ไร่ ปลูกทุเรียน เงาะ มังคุด ขนุน ลองกอง แก้วมังกร  โดยได้ศึกษาหาความรู้เรื่องการปลูก การดูแลบำรุงรักษา จากกลุ่มญาติพี่น้องที่เขาประสบความสำเร็จแล้ว นำมาปรับใช้ในพื้นที่ของตัวเอง  ช่วงระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมานั้น ถือได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ปีนี้ทุเรียนที่สวนเก็บผลผลิตได้เกือบ 3,000 ลูก ขายกิโลละ 120 บาท อีกทั้งได้เปิดสวนต้อนรับนักท่องเที่ยว เข้ามาเที่ยวชมสวน มาเลือกทุเรียนเอง มาตัดทุเรียนด้วยตัวเอง ซึ่งได้การตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี

ส.ต.อ.เอนก สุระ กล่าวเพิ่มเติมว่า  ตนไม่อยากรอเกษียณอายุแล้วค่อยมาทำสวน  ในขณะที่ยังมีแรงอยู่อะไรที่พอทำได้ก็อยากลงมือทำตั้งแต่ตอนนี้  ซึ่งตนโชคดีที่มีคุณพ่อคุณแม่และพี่น้องคอยมาช่วยกันดูแลสวนและผลผลิตต่างๆ เพราะบางช่วงตนทำงานเข้าเวรไม่ค่อยมีเวลา ก็ได้คนในครอบครัวมาช่วยกันดูแลสวน  แต่ช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ตนจะอยู่ที่สวนตลอดทั้งวัน ตอนนี้มีรายได้จากการจับปลาในบ่อ ทั้งปลานิล ปลาตะเพียน ปลาดุก และไก่บ้าน ขายให้ชาวบ้านก็มีรายได้เลี้ยงครอบครัวโดยไม่ลำบาก ส่วนเรื่องสวนทุเรียนและผลไม้อื่นๆ ก็พยายามดูแลอย่างดี  ซึ่งอำเภอบัวเชดถือเป็นลำดับที่หนึ่งที่มีการปลูกทุเรียนมากที่สุดของจังหวัดสุรินทร์  ถึงช่วงฤดูผลไม้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมสวน และเลือกซื้อผลไม้จากชาวสวนโดยตรง ตรงนี้เองที่ตนถือว่าเป็นจุดขาย เพราะนักท่องเที่ยวเข้ามาเลือกซื้อผลผลิตจากสวนได้โดยตรง ไม่ต้องออกไปขายหรือไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง