ในวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (ซีพี) ร่วมกับ สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย และพันธมิตรภาครัฐและเอกชน ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย–จีน สมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพมหานคร ไทยเบฟเวอเรจ ธนาคารกรุงเทพ ไอคอนสยาม Huawei ZTE Midea และ Tencent จัดการแสดง “มหาอุปรากรสะท้านปฐพี” โดยคณะ กึงตังเตี่ยเกี๊ยะอี่อิ๊กท้วง งิ้วแต้จิ๋วอันดับหนึ่งจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจะจัดแสดง 16 เรื่องไม่ซ้ำ ตลอด 7 วัน ระหว่างวันที่ 10–16 กรกฎาคม 2568 ณ ทรู ไอคอน ฮอลล์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม พร้อมคำบรรยายภาษาไทย–จีน การแสดงในครั้งนี้ไม่ได้มุ่งเพียงความบันเทิงทางศิลปะเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งต่อมรดกทางวัฒนธรรมจีนอันทรงคุณค่า สู่ใจคนรุ่นใหม่ และร่วมสร้าง “ความทรงจำร่วม” ระหว่างสองประเทศ
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า “ความทรงจำคือสิ่งที่สร้างตัวตนของเรา ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่เติบโตมากับสองวัฒนธรรม ทั้งไทยและจีน ซึ่งเต็มไปด้วยคุณค่าทางจิตใจ การชมมหาอุปรากรจีนในครั้งนี้ เป็นเหมือนทางลัดให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าใจความรัก ความกตัญญู และความจงรักภักดีที่สองวัฒนธรรมมีร่วมกัน งิ้วไม่ใช่แค่การแสดง แต่ยังสื่อถึงความผูกพันที่ลึกซึ้งของประชาชนทั้งสองชาติ”
ในขณะที่ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผมมีความผูกพันกับงิ้วมาตั้งแต่วัยเด็ก เคยติดตามคุณแม่และอาม่าไปชมงิ้วบ่อย ๆ แม้ในตอนนั้นจะยังไม่เข้าใจเนื้อเรื่องมากนัก แต่บรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงดนตรี การแสดง และขนมอร่อย ได้กลายเป็นความทรงจำที่อบอุ่นในใจ เป็นภาพจำที่สนุกสนาน เป็นความทรงจำในวัยเด็กที่น่าประทับใจ ถึงแม้จะจำเรื่องของงิ้วไม่ได้ แต่งิ้ว หรือ“อุปรากรจีน” ไม่ได้เป็นเพียงการแสดง แต่สอนให้เห็นถึงเรื่องราววิถีชีวิตของคน ที่แฝงไว้ด้วยเรื่องราวของวัฒนธรรมอย่างมากมาย จึงขอเชิญชวนผู้มีความผูกพันกับวัฒนธรรมจีน และคนรุ่นใหม่ มาร่วมชมงิ้วแต้จิ๋วในครั้งนี้ เพื่อสัมผัสรากวัฒนธรรมที่งดงามและเรียนรู้คุณธรรมที่สืบทอดผ่านรุ่นสู่รุ่น”
สำหรับ นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวถึงความทรงจำที่ไม่รู้ลืมของงิ้วแต้จิ๋วว่า “เคยได้ยินได้ฟังมาจากคุณพ่อมาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่เคยได้สัมผัสของจริง จึงทำให้วันนี้ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ในอีกไม่กี่วัน ผมจะได้สัมผัสการแสดงอันทรงคุณค่าที่เคยมีความทรงจำในวัยเด็กพร้อมยังทิ้งท้ายถึงคนไทยเชื้อสายจีนด้วยว่า “ถึงคนไทยเชื้อสายจีนเหมือนผม ท่านต้องมาดูให้เห็นกับตาและมาสัมผัสด้วยตัวท่านเองให้ได้ อย่าเพียงฟังจากคนอื่นเล่า ถึงแม้บางท่านจะฟังภาษาจีนแต้จิ๋วไม่ค่อยได้แล้ว แต่ผมเชื่อว่า ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้จะช่วยให้ท่านเข้าใจเนื้อหาและการถ่ายทอดทางวัฒนธรรมได้มากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน”
ด้าน ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การแสดงอุปรากรจีนในครั้งนี้สะท้อนถึงมิตรภาพไทย–จีนที่แน่นแฟ้นและยาวนาน โดยเฉพาะในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต การที่คณะงิ้วอันดับหนึ่งจากเมืองซัวเถาเดินทางมาแสดงสดถึงไทย พร้อมบรรยาย 2 ภาษา ตลอด 7 วัน 16 เรื่อง ถือเป็นโอกาสพิเศษที่ไม่ควรพลาด พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมสัมผัสศิลปะจีนอันทรงคุณค่า ซึ่งเป็นสื่อกลางแห่งมิตรภาพระหว่างสองประเทศ”
งิ้วแต้จิ๋ว หรือ เฉาโจวโอเปร่า เป็นศิลปะการแสดงเก่าแก่กว่า 590 ปี ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็น “มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ” โดดเด่นด้วยเสียงร้องในสำเนียงแต้จิ๋ว ท่วงท่าที่งดงามประณีต ดนตรีพื้นบ้านที่ไพเราะ และเครื่องแต่งกายที่มีเอกลักษณ์ เปรียบได้กับ “โอเปร่าแห่งตะวันออก” ที่เล่าเรื่องผ่านอารมณ์และคุณธรรม และสำหรับการแสดง “มหาอุปรากรสะท้านปฐพี” ครั้งนี้ โดยคณะกึงตังเตี่ยเกี๊ยะอี่อิ๊กท้วง จากเมืองซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง นับเป็นคณะงิ้วแต้จิ๋วระดับแนวหน้าของจีน เคยจัดแสดงทั่วโลก ทั้งในฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน ฝรั่งเศส และได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ อาทิ รางวัลศิลปินยอดเยี่ยม “เยาเสวียนเชียว” และรางวัล Plum Blossom Award จาก The China Theatre เป็นต้น
ทั้งนี้ เรื่องราวที่คณะงิ้วกึงตังเตี่ยเกี๊ยะอี่อิ๊กท้วง จะนำมาแสดงที่เมืองไทยในครั้งนี้ ได้คัดสรรมาจากบทประพันธ์คลาสสิกที่ถ่ายทอดคุณค่าความดีและจริยธรรมทั้งหมด 16 เรื่อง ตลอด 7 วัน ไม่ซ้ำ
คืนที่ 1: พฤหัสบดีที่ 10 ก.ค. 2568 อำลาสามีที่สี่หนึ่งจิว (ยุทธภูมิสี่หนึ่งจิว) ในช่วงปลายราชวงศ์ซ่ง “ตั่งเปี๊ยะเนี้ย” ภรรยานายทหารเมืองแต้จิ๋ว โน้มน้าวให้สามีออกรบต้านทัพหยวน แม้จะจบลงด้วยความพ่ายแพ้และการเสียชีวิตของสามี แต่เธอยืนหยัดต่อสู้จนวาระสุดท้าย สะท้อนความรักชาติและเสียสละอย่างสูงสุด
คืนที่ 2: ศุกร์ที่ 11 ก.ค. 2568 มเหสีฮั่นบุ๊ง ฮองเฮาโต้วจีได้พบกับน้องชายที่พลัดพรากกันนาน 12 ปี แต่เมื่อเขาถูกหลอกให้ฆ่าเจ้าหน้าที่รัฐและต้องโทษประหาร เธอต้องเลือกระหว่างความรักพี่น้องกับความยุติธรรม ในที่สุดเธอยืนหยัดรักษากฎหมาย แม้ต้องสูญเสียน้องชายไป เพื่อธำรงไว้ซึ่งความถูกต้องของบ้านเมือง
คืนที่ 3: เสาร์ที่ 12 ก.ค. 2568 กตัญญูสู้อยุติธรรม หญิงสาวผู้บริสุทธิ์ถูกใส่ร้ายว่าเป็นฆาตกรฆ่าแม่สามี แต่สุดท้ายความจริงเปิดเผย และผู้พิพากษาซื่อสัตย์กล้าตัดสินลงโทษลูกขุนนางผู้มีอำนาจ เป็นเรื่องราวสะท้อนความยุติธรรมและศักดิ์ศรีของผู้หญิง
คืนที่ 4: อาทิตย์ที่ 13 ก.ค. 2568 พระโมคคัลลานะโปรดมารดา พระโมคคัลลานะเสี่ยงชีวิตเดินทางไปช่วยแม่จากยมโลก แม้แม่จะเคยทำกรรมชั่ว แต่ด้วยพลังแห่งความกตัญญู เขาสามารถเปลี่ยนใจเหล่ายมทูตและช่วยแม่พ้นจากบาปได้ในที่สุด
คืนที่ 5: จันทร์ที่ 14 ก.ค. 2568 องค์หญิงโป๊ยป้อและเต็กเช็ง แม่ทัพหนุ่มผู้ยึดมั่นในหน้าที่ ปฏิเสธการอภิเษกกับองค์หญิงต่างแคว้น แม้เกิดความเข้าใจผิดและความขัดแย้ง แต่ด้วยการไกล่เกลี่ยของผู้นำ ทำให้เรื่องราวลงเอยด้วยความเข้าใจและความเสียสละเพื่อบ้านเมือง
คืนที่ 6: อังคารที่ 15 กรกฎาคม 2568 (รวมไฮท์ไลท์สำคัญ 10 เรื่อง) เรื่องที่ 1 หวนพบกันที่นครหลวง เรื่องราวความรักและความกล้าหาญของคู่รักที่ถูกขัดขวางจากครอบครัว แต่สุดท้ายก็กลับมาอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข เรื่องที่ 2 สัญญารักในสวนดอกไม้ เรื่องราวของคู่รักวัยเยาว์สัญญาจะครองคู่กันตลอดชีวิตท่ามกลางบรรยากาศสวนดอกไม้ เรื่องที่ 3 เปาบุ้นจิ้นขอขมา เรื่องราวของเปาบุ้นจิ้นที่ยึดมั่นความยุติธรรม ตัดสินประหารญาติผู้กระทำผิด แม้ต้องเผชิญความเข้าใจผิดจากครอบครัว เรื่องที่ 4 โรงเตี๊ยมทางสามแพร่ง เรื่องราวของเจ้าของโรงเตี๊ยมหญิงกล้าหาญช่วยเหลือชายผู้ถูกขุนนางชั่วกลั่นแกล้ง ในระหว่างช่วยเหลือเกิดความเข้าใจผิดกับนายทหาร ทำให้ทั้งสองต้องต่อสู้กันอย่างดุเดือด ก่อนจะรู้ความจริงและร่วมมือกันทำภารกิจสำคัญ เรื่องที่ 5 ลำนำเพลงรัก เรื่องราวความรักระหว่างชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์และหญิงคณิกาที่ต้องพลัดพรากจากกันอย่างเจ็บปวด เรื่องที่ 6 นารีกำสรวล เรื่องราวของหญิงชาวนายากจนกลับบ้านพบลูกชายป่วยหนัก หัวใจแม่เต็มไปด้วยความหวังและความเศร้า เรื่องที่ 7 สารโยงสายใย เรื่องราวของบุตรชายค้นพบแม่แท้จริง ทำให้เกิดความขัดแย้งกับมารดาเลี้ยง ก่อนทุกคนจะเข้าใจและคืนดีกัน เรื่องที่ 8 ปิ่นทองอลเวง เรื่องราวความเข้าใจผิดเรื่องปิ่นทอง นำไปสู่ความระแวงและการลงโทษที่สร้างความอับอายแก่คุณชายเจ้าสำราญ เรื่องที่ 9 วีรบุรุษอ่วงฉ่งห่วง เรื่องราวของแม่ทัพผู้ภักดีต้องถูกจองจำเพราะความสงสัยจากฮ่องเต้ ท่ามกลางภัยรุกรานจากศัตรู เรื่องที่ 10 หวนพบที่บ้านสกุลจก เรื่องราวของคู่รักที่พรากจากกันกลับมาพบกันอีกครั้งแต่ต้องเผชิญชะตากรรมที่ทำให้ไม่อาจครองคู่กันได้
คืนที่ 7: พุธที่ 16 ก.ค. 2568 พยัคฆ์ปักไหม ผลงานสร้างสรรค์ร่วมสมัยจากวรรณกรรม “สามก๊ก” ถ่ายทอดชีวิต “เฉาจื้อ” กวีหนุ่มผู้เปี่ยมพรสวรรค์ บุตรชายของโจโฉ ที่ต้องเผชิญความขัดแย้งในตระกูลและการทดสอบอันโหดร้ายจากพี่ชาย “เฉาพี” หลังการสิ้นชีวิตของบิดา เรื่องราวสะท้อนพลังของวรรณกรรม ความเข้าใจในความเป็นมนุษย์ และการเคารพซึ่งกันและกัน งิ้วเรื่องนี้ได้รับรางวัลอันดับ 1 ประเภทบทละครเวที จากรางวัลเถียนฮั่น ครั้งที่ 35 ถือเป็นงิ้วแต้จิ๋วเรื่องแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รับรางวัลสูงสุดของวงการศิลปะการละครจีน
ขอเชิญทุกท่านสัมผัสมนตร์เสน่ห์ของ “งิ้วแต้จิ๋ว” การแสดงที่ผสานเสียงร้องสด ดนตรีสด เครื่องแต่งกายสุดวิจิตร และเทคนิคแสงสีเสียงร่วมสมัย ถ่ายทอดเรื่องราวเข้มข้นแห่งคุณธรรม ความรัก และความกล้าหาญ พร้อมคำบรรยายไทย–จีนเต็มรูปแบบ เข้าใจง่ายทั้งสองภาษา ตรึงทุกสายตราพร้อมกันวันที่ 10-16 ก.ค. 2568 เปิดแสดงเวลา 19. 00 น. ณ ทรู ไอคอน ฮอลล์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม