ภายหลังจากมีการเปิดกลุ่ม “ย้ายประเทศกันเถอะ” ในเฟซบุ๊ก และพบว่าผ่านไปแค่ 4 วันมีสมาชิกเข้าร่วมกว่า 5แสนคนแล้ว รวมถึงมีการกล่าวโจมตีการทำงานแก้ไขปัญหาสถานการณ์ โควิดของรัฐบาลนั้น ผู้สื่อข่าว Top news สอบถามไปยังนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า มอบหมายให้ นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัล ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม(Anti Fake News Center) ติดตามตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้วว่ากระทบต่อความมั่นคงหรือสร้างข่าวเท็จ ข่าวปลอมให้กับประชาชนตื่นตระหนกหรือไม่ หากพบว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ฯ ก็ให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
นอกจากนี้ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลโดย พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมถึงกระทรวงสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ส่วนต่าง ๆ กำลังระดมสรรพกำลังเพื่อเร่งควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด19 ซึ่งหากกลุ่มการเมืองหรือกลุ่มใดออกมาเคลื่อนไหว หากมีข้อเสนอแนะใดที่จะช่วยการทำงานของรัฐบาลก็พร้อมรับฟัง แต่ในส่วนประเด็นทางการเมือง อื่น ๆ ขอไม่พูดถึง เนื่องจากขณะนี้ทุกหน่วยงานเร่งการทำงานอย่างหนักทั้งเรื่องการลงทะเบียนฉีดวัคซีน,เรื่องการนำเข้าวัคซีนต่างๆ ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่
พร้อมกันนี้นายอนุชายืนยันว่า แผนการฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้มีโรคประจำตัวในลำดับแรกนั้น ยังคงตามกำหนดเดิมคือ เริ่มฉีดตั้งแต่ 7 มิถุนายนเป็นต้นไป ขอให้ประชาชนรับฟังข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ผู้รับผิดชอบโดยตรงหากยังไม่มีการประกาศเลื่อนก็อย่าได้หลงเชื่อกระแสข่าวที่ไม่เป็นความจริง