เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานเมื่อวานนี้ (อาทิตย์ที่ 29 มิย.) โดยเผยความคิดเห็นของซ่ง จงผิง นักวิเคราะห์และอดีตสมาชิกกองทัพจีนปมข้อพิพาทชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา และจากกรณีที่ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาออกมาอ้างว่ากองทัพกัมพุชามีอาวุธศักยภาพสูงที่สามารถยิงไกลถึงกรุงเทพ
ทั้งนี้ซ่งกล่าวว่ากัมพูชามีอาวุธที่สามารถยิงข้ามพรมแดนถึงไทยได้ก็จริง แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะยิงเข้ามาถึงกรุงเทพ นอกจากนี้กัมพูชาก็ไม่มีเครื่องบินโจมตีติดหัวรบหรือขีปนาวุธพิสัยไกลที่สามารถบินเข้าไปโจมตีถึงกรุงเทพ ซ่งยังเสริมด้วยว่างบกลาโหมของกัมพูชาเทียบไทยไม่ติด แค่ 1 ใน 10 ของกองทัพไทยเท่านั้น สรุปได้ว่าศักยภาพของกองทัพไทยแข็งแกร่งกว่ากัมพูชามากมายนัก
ผู้เชี่ยวชาญจีนชี้ว่าจีนส่งออกหรือขายอาวุธก็เพื่อจุดประสงค์สำหรับการป้องกันตัวเท่านั้น และหลังจากซื้อไปแล้ว ก็เป็นสิทธิของผุ้ซื้อที่จะใช้ทำอะไร จีนไม่มีนโยบายจำกัดหรือควบคุมการใช้อาวุธที่ขายไปเหมือนกับสหรัฐ
อย่างไรก็ตามจีนไม่ปรารถนาที่จะเห็นไทยและกัมพูชาเปิดสงครามหรือแม้แต่ขัดแย้งกันเรื่องแนวพรมแดน เนื่องจากทั้งไทยและกัมพูชาเป็นพันธมิตรที่ยาวนานกับจีนทั้งคู่ แต่หากความขัดแย้งยกระดับจนถึงขึ้นปะทะกันทางทหาร ซ่งเชื่อว่ารัฐบาลจีนจะไม่อยู่เฉยอย่างแน่นอน แต่คงเขัามาช่วยเจรจาไกล่เกลี่ย
ซ่งเปรียบเทียบความขัดแย้งไทย-กัมพูชากับอินเดีย-ปากีสถานว่าแตกต่างกัน โดยอินเดีย-ปากีสถานมีความขัดแย้งที่หยั่งรากลึกจากศาสนาที่ต่างกัน แต่ไทย-กัมพูชาขัดแย้งเรื่องแนวพรมแดนซึ่งมีปมปัญหาจากยุคอาณานิคมฝรั่งเศส ซึ่งสมัยนั้นเมื่อร้อยกว่าปีก่อนมีการจัดทำแผนที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ทำให้เกิดปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกัน