วันที่ 28 มิ.ย. 68 ที่เวทีบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายจตุพร พรหมพันธ์ุ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ขึ้นกล่าวปิดปราศรัย โดยยกบทกลอนว่า ”รวมพลังหลั่งไหล ดั่งสายธาร ปกป้องบ้านปกป้องเมืองของเราไว้ แผ่นดินไทยอธิปไตยคือหัวใจ ไม่ยอมให้มันผู้ใดรุกรานเรา“ พร้อมกล่าวว่า ขอบอกเป็นปริญญาแห่งอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิว่า แผ่นดินรัชกาลที่ 10 จะไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว อธิบายเรื่องการเสียดินแดนก็เจ็บใจทุกครั้ง ประวัติศาสตร์ในอดีตที่เราแพ้พม่าเพราะเราไม่จัดการคนขายชาติ เราจึงแพ้ ซึ่งวันนี้มีประสบการณ์แล้ว ดังนั้นต้องจัดการคนขายก่อน “ถ้ากรุงศรีอยุธยาจับคนขายชาติประหารก่อน กรุงศรีก็ไม่แตก ถ้าไม่จัดการคนขายชาติก็ไม่มีชาติให้เหลือ“
นายจตุพร กล่าวต่อว่า มีการพูดกันว่าเขมรเสี้ยมให้ไทยแตกกัน แต่ตนมองว่าคนไทยส่วนใหญ่ เขารักชาติบ้านเมือง และสามัคคีกัน เขาแตกแยกกับนายกรัฐมนตรี และพ่อนายกรัฐมนตรี และแตกแยกกับคณะรัฐมนตรี ดังนั้นเราเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก แต่มันก็ไม่ลาออกไม่ยุบสภา เรียกร้องให้พรรคร่วมฯ ถอนตัว มันก็ไปแบ่งตำแหน่งกัน บัดนี้พิสูจน์ชัดแล้วว่า ”โจรพายเรือให้โจร“ เมื่อนายกฯ วางแผนอย่างแยบยล รู้อนาคตตัวเองว่ามีชะตากรรมโดยศาลรัฐธรรมนูญ จึงปรับ ครม . ให้ตัวเอง นั่งควบรัฐมนตรีวัฒนธรรม เนื่องจากมีความสามารถที่จะแต่งตัวให้เหมาะสมกับกระทรวง และในประวัติศาสตร์มีนายกฯ คนเดียวที่นั่งควบกระทรวงวัฒนธรรม คือจอมพล ป.พิบูลสงคราม เพราะเขามองว่าหากตำแหน่งนายกถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตนเองก็ได้นั่งใน ครม.ต่อไป