"นพ.ประสิทธิ์" แถลงแพทยสภา ลงมติท่วมท้น ยืนบทลงโทษ 3 หมอ ทำผิดจริยธรรมวิชาชีพ ยันรับฟังเหตุวีโต้ พิจารณาอย่างรอบคอบ
ข่าวที่น่าสนใจ
สืบเนื่องจากกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ได้เผยแพร่คำชี้แจงของตนเอง ต่อที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ที่จะมีการพิจารณามติลงโทษแพทย์ 3 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการรักษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ หลังจาก นายสมศักดิ์ ได้แจ้งความเห็นให้ยับยั้งมติลงโทษ แพทย์หญิง รวมทิพย์ สุภานันท์ เป็นแพทย์ผู้ทําหน้าที่ตรวจร่างกายผู้ต้องขังแรกรับในเรือนจํา ถูกลงโทษว่ากล่าวตักเตือน พลตำรวจโท โสภณรัชต์ สิงหจารุ พลตำรวจโท ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ เป็นเรื่องการให้ข้อมูลเอกสารทางการแพทย์ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ถูกลงโทษให้พักใบอนุญาต 3 เดือน และ 6 เดือน ตามลำดับ
ทั้งนี้ สำหรับชี้แจงของนายสมศักดิ์ได้ระบุว่า อาศัยอํานาจ ตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ มีหน้าที่โดยตรงในการพิจารณาให้ความเห็นต่อมติของแพทยสภา ซึ่งถือเป็นกลไกสําคัญในการค้ําจุนจริยธรรมของวิชาชีพแพทย์ อันเป็นเสาหลักที่ประชาชนใช้ยึดโยงความเชื่อมั่นและไว้วางใจต่อการรักษาพยาบาลในสังคมไทย จริยธรรมทางการแพทย์นั้น มิใช่เพียงข้อบังคับหากแต่คือแก่นของวิชาชีพที่สะท้อนความรับผิดชอบของแพทย์ต่อชีวิตและศักดิ์ศรีของผู้ป่วย โดยต้องตั้งอยู่บนหลัก 4 ประการ คือ การเคารพเจตจํานงของผู้ป่วย การให้ประโยชน์สูงสุด การไม่ก่อ อันตราย และการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม ด้วยเหตุนี้ การให้ความเห็นต่อมติลงโทษแพทย์จึงต้องดําเนินการด้วยความ รอบคอบ ละเอียดอ่อน และยึดมั่นในความเป็นธรรมอย่างแท้จริง ไม่ใช่การเอาผิดเพื่อ ตอบต่อกระแส แต่ต้องเป็นการตัดสินที่ตั้งอยู่บนข้อเท็จจริง เจตนา และบริบทของการ ปฏิบัติงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต
ล่าสุดวันนี้ (12 มิ.ย.) เมื่อเวลา 15.10 น. ที่อาคารแพทยสภา ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกคนที่หนึ่ง แถลงผลการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ซึ่งพิจารณาคดีลงโทษ 3 หมอที่ดูแล นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ หลังจากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ เข้าชี้แจงเพื่อขอให้ทบทวนมติแพทยสภา ว่า กรณีพิจารณาจริยธรรมของแพทย์ กล่าวโทษแพทย์รพ.ราชทัณฑ์และรพ.ตำรวจ ประพฤติผิดจริยธรรม
การประชุมแพทยสภาวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาขอยับยั้งมติของแพทยสภา จากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีกรรมการแพทยสภาจำนวน 68 คน จากจำนวนที่มีสิทธิลงคะแนน 69 คน พิจารณาแล้วมีมติด้วยคะแนนเสียงเกิน 2 ใน 3 ของกรรมการยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาวันที่ 8 พ.ค.2568
ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า กระบวนการต่อไปจะออกคำสั่งและบังคับใช้ต่อไป ทั้งนี้ เมื่อแพทยสภารับรองมติแล้ว แสดงว่าสามารถดำเนินการได้เลย
กระบวนการในวันนี้เรารับฟังข้อคิดเห็นอย่างชัดเจน นายสมศักดิ์ มาให้ความเห็นของท่านในการวีโต้ ซึ่ววันนี้กรรมการได้รับเอกสารที่นายสมศักดิ์ ส่งถึงแพทยสภาเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่่านมาถึงเหตุผลการวีโต้ และนำข้อมูลมาเปรียบเทียบให้ห็นเหตุผล มีบทวิเคราะห์
ทั้งหมดนี้ กรรมการแพทยสภาใช้ดุลยพินิจด้วยตัวเอง วันนี้เป็นกระบวนการโปร่งใส ชัดเจน ทุกคนใช้ดุลยพินิภายใต้หลักวิชาการ และเหตุผล ในส่วนของไลน์หลุดนั้น ยืนยันไม่ใช่ไลน์ในกลุ่มแพทยสภา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง