วันที่ 7 ต.ค. – นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย พรรคก้าวไกล ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ข้อความว่า ขออวยพรให้ “วินท์” (วินท์ สุธีรชัย) เพื่อนผมประสบความสำเร็จในทางที่เลือกเดิน วินท์ คือเพื่อนคนหนึ่งที่เราได้สนิทกันมากขึ้นตั้งแต่ช่วงก่อนพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ซึ่งในเวลานั้นพรรคมีเรื่องระส่ำระสายภายในเพราะมีเพื่อนเราหลายคนตัดสินใจไม่ไปต่อกับพรรค แต่วินท์ได้มาพูดคุยกับเพื่อนๆ ในพรรคหลายคนแล้วเห็นตรงกันว่า ในสถานการณ์แบบนั้นเราจะทิ้งพรรคที่เราร่วมก่อร่างสร้างมาด้วยกันไม่ได้ และที่สำคัญคือ เราต้องรวมกับช่วยสนับสนุนให้ “ทิม”(พิธา ลิ้มเจริญรัตน์) เป็นหัวหน้าพรรคในช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้นให้ได้ เราจะช่วยกันมอบอำนาจนำในพรรคให้กับทิมในช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงในพรรค
ซึ่งพวกเราเป็นกลุ่มแรกๆ ในพรรคที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าหนุนหลังทีมและพร้อมจะยืนอยู่ข้างๆ เป็นเพื่อนทิมในวันที่เขาต้องเดินนำพรรคแล้วหันมาเจอพวกเรา ในวันนั้นเราบอกกันว่า เราไม่รู้หรอกว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรแต่เราจะขอทำให้สุดทาง วินท์ คือหนึ่งในคนที่ทุ่มเทสนับสนุนพรรคอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด เพื่อนๆ ในพรรคก็น่าจะรู้ดี อย่างเช่น ในการเลือกตั้งซ่อมแต่ละครั้งที่พวกเราลงสนาม วินท์จะช่วยเหลือเต็มที่ และไม่เคยปฏิเสธเมื่อมีเพื่อนๆ ร้องขอความช่วยเหลือ
สิ่งหนึ่งที่เราร่วมกันมาในพรรคอนาคตใหม่คือ การสร้างการเมืองใหม่ การเมืองที่หลุดออกจากความขัดแย้งเดิมที่เป็นตัวฉุดรั้งประเทศ และแต่ละคนมีความต้องการจะผลักดันในประเด็นของตัวเอง อย่างเช่น วินท์ อยากจะสร้างเศรษฐกิจด้วยการติดปีกให้ SME ไทยด้วยประสบการณ์ที่เขาเคยผ่านมาก่อน ตนก็อยากที่จะพัฒนาต่อยอดระบบสาธารณสุขไทยให้ก้าวไปสู่อนาคตและเห็นประเทศไทยมีรัฐสวัสดิการแบบถ้วนหน้า ไม่ใช่สวัสดิการแบบสังคมสงเคราะห์ ในวันที่มีเพื่อนของเราก้าวเท้าออกมาจากพรรค ก็น่าจะทำให้ผู้ที่เป็นกองเชียร์ของพรรครู้สึกผิดหวัง รู้สึกโกรธแค้นจนนำมาซึ่งคำด่าทอมากมายในโซเชียล เป็นสิ่งที่พวกเพื่อนเราพยายามอย่างมากที่จะไม่ตอบโต้
แต่ถ้าจะสังเกตให้ดีคือ เพื่อนเราที่ออกไปจากพรรคโดยส่วนใหญ่ไม่มีใครที่จะออกมาแสดงอาการไม่ให้เกียรติเพื่อนที่ยังอยู่ในพรรคและมุ่งมั่นทำงานต่อไป จะมีก็แต่บางคนที่ยังอยู่ในพรรค แล้วก็ใช้ทุกโอกาสที่มีสาดโคลนใส่เพื่อนที่ร่วมต่อสู้กันมาว่า “งูเห่า” ทั้งที่บางทีคนที่ออกไปอาจเป็นชาวนาตัวจริงก็ได้ เพราะหลายคนเป็นคนที่ร่วมก่อร่างสร้างพรรคขึ้นมา ไม่ได้เป็นกาฝากที่หลุดเป็น สส.แบบที่แทบไม่ได้ทำอะไร เราจะทำการเมืองใหม่แบบที่เราต้องการไม่ได้เลย หากต้องการเพียงแค่ทำทุกทางให้ได้คะแนนนิยม แล้วประดิษฐ์วาทกรรมเพื่อสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้น หลายคนก็อาจจะด่าตนหรือเพื่อนๆ ว่าเป็น “ไอ้งูเห่า” แต่งูเห่าอย่างตน ทำให้คนในพื้นที่ไม่มีคำพูดที่ว่า “สส. หายไปไหน” อีก
แต่งูเห่าอย่างตนติดตามเรื่องระบบหลักประกันสุขภาพ โดยโหวตเห็นชอบให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องนี้ แต่งูเห่าอย่างตนสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้คนไทยมี “รายได้พื้นฐานถ้วนหน้า” หรือ UBI แต่งูเห่าอย่างตน ติดตามการทุจริตและปัญหาในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และเห็นปัญหาที่ส่อแววว่าอาจมีการทุจริตของกลุ่มแพทย์บางกลุ่มในสถานการณ์ระบาดของโควิด แต่งูเห่าอย่างตนติดตามเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนใน สสส. และติดตามเรื่องการควบคุมยาสูบและแอลกอฮอล์ ซึ่งทุกคนในสภาและนอกสภารู้ว่าตนติดตามเรื่องนี้และติดตามจริงจัง
สุดท้ายนี้ขอแสดงความยินดีกับ “รวมไทย ยูไนเต็ด” ไม่ได้เป็นแค่ชื่อที่แปลกสำหรับวงการการเมือง แต่เป็นชื่อที่แสดงถึงรากเหง้าที่พวกเราต้องการในวันที่พวกเรามาทำงานการเมืองเราต้องการทำการเมืองที่ไม่หาคะแนนนิยมจากความขัดแย้งทางการเมืองที่เป็นตัวฉุดรั้งประเทศ และใช้ศักยภาพความเชี่ยวชาญของแต่ละคนและความคิดสร้างสรรค์ที่มี นำพาประเทศให้หลุดออกจากการเป็นประเทศปานกลางได้ ประเทศเราต้องการคนทำงานมืออาชีพมากกว่านักพูดโต้วาทีมืออาชีพ