“กรมการปกครอง” ส่งหนังสือด่วนที่สุดแจ้งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดชายแดน ยึด 4 แนวปฏิบัติ ดูแลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

“กรมการปกครอง” ส่งหนังสือด่วนที่สุดแจ้งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดชายแดน ยึด 4 แนวปฏิบัติ ดูแลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

 

“กรมการปกครอง” ส่งหนังสือด่วนที่สุดแจ้งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดชายแดน ยึด 4 แนวปฏิบัติ ดูแลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จากกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีข้อกำชับไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งมีที่ตั้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับการดูแลความปลอดภัยประชาชน ตลอดจนการจัดทรัพยากร กำลังเจ้าหน้าที่สนับสนุนและอำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคงบริเวณชายแดน ซึ่งต่อมานายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อสั่งการของนายอนุทิน อย่างเคร่งครัด

 

ล่าสุด วันนี้ (4 มิ.ย.68) นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือด่วนที่สุด เรื่อง กำชับแนวทางการปฏิบัติงานในสถานการณ์ตามแนวขายแดนไทย – กัมพูชา ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา 7 จังหวัด ประกอบด้วย ตราด จันทบุรี สระแก้ว อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ระบุว่า ตามที่มีเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ซึ่งส่งผลให้ด่านชายแดนไทย – กัมพูชา และพื้นที่อื่น ต้องเพิ่มมาตรการป้องกันและระมัดระวังเหตุลุกลามมากยิ่งขึ้นนั้น ในการนี้ กรมการปกครองมีภารกิจเกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงภายในประเทศ และการอาสารักษาดินแดน เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นคง ปลอดภัย และให้เกิดความสงบสุขในสังคมอย่างยั่งยืน จึงขอเน้นย้ำแนวทางปฏิบัติเพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้

1.ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งการให้นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ดำเนินการตามภารกิจการดูแลความมั่นคงภายใน ให้ความสำคัญสูงสุด การดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน โดยประเมินสถานการณ์ จำนวนประชาชนในในพื้นที่เสี่ยง ชี้แจงแผนอพยพประชาชน กำหนดจุดรวมพล และจุดพักพิงในพื้นที่ปลอดภัย ตลอดจนการดูแลประชาชนในจุดพักพิง ให้ทุกขั้นตอนปฏิบัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมปรับปรุงแผนเผชิญเหตุ กำหนดขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ เตรียมกำลังพลให้มีความพร้อมปฏิบัติการดูแลความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนสนับสนุนหน่วยทหารในการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่

 

2.ให้ผู้ว่าฯ รายการจังหวัด ในฐานะผู้บัญชาการอาสารักษาดินแดนจังหวัด สั่งการเจ้าหน้าที่และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เตรียมความพร้อมกำลังพลเพื่อปฏิบัติงานในยามฉุกเฉิน ตรวจสอบพื้นพื้นที่ล่อแหลม สนับสนุนการเฝ้าตรวจและการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดนหากเกิดภาวะไม่ปกติ ให้ปฏิบัติตามแนวทางในแผนรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนและพิทักษ์พื้นที่เขตหลัง ประกอบแผนสั่งใช้สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ปฏิบัติภารกิจประจำปี 2568

 

3.ประชาสัมพันธ์ชี้แจงให้ประชาชนให้ทราบถึงสถานการณ์ และแจ้งข่าวสารทางราชการให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกและสามารถปฏิบัติตนได้เมื่อเกิดสถานการณ์

 

4.กรณีเกิดสถานการณ์ความไม่สงบอันส่งผลต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ให้จังหวัดรายงานสถานการณ์ให้กรมการปกครองทราบในวาระแรกโดยเร็วที่สุดจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

GULF ระดมทีม "กัลฟ์อาสา" ร่วมแพ็คถุงยังชีพ 1,000 ชุด ส่งต่อกำลังใจและความช่วยเหลือให้พี่น้องประชาชนพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา
เปลี่ยนของดีชุมชนให้เป็นแบรนด์โลก CPOT เปิดเวทีเฟ้นหาสุดยอดผลิตภัณฑ์รักษ์โลก
ททท.ตราด ผู้ประกอบการท่องเที่ยวตราด ยืนยันท่องเที่ยวตราด และ 3 เกาะ ไม่มีผลกระทบ หลัง นทท.ยกเลิกห้องพักเพียบหวั่นเหตุปะทะ
"เครือซีพี" เคียงข้างชาวน่าน รวมพลังทุกกลุ่มธุรกิจเร่งช่วยผู้ประสบอุทกภัยจาก "พายุวิภา" ส่งอาหาร-น้ำดื่ม-ถุงยังชีพ พร้อมหนุนสื่อสาร-ตั้งศูนย์ประสานงาน
"ผู้ว่าฯสงขลา" มอบบ้านโครงการบ้านห่วงใยจากใจ GLO ประจำปี 2568
"วธ." เร่งเตรียมพร้อมภารกิจพิธีการศพในพระบรมราชานุเคราะห์ และสนับสนุนภารกิจอื่นในพื้นที่ จากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​