เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา เพจปราชญ์ สามสี โพสต์ข้อความระบุว่า ถ่ายรูป = อธิปไตย? งั้นเราขอทวง “ปราสาทบายน” คืนด้วย สมเด็จฮุนเซน ออกมาแถลงกรณีพิพาทชายแดนว่า พื้นที่บริเวณ “ช่องบก” ที่ทหารกัมพูชาและไทยเกิดเหตุปะทะกันนั้น เป็น “ดินแดนกัมพูชา” เพราะท่าน “เคยนั่งถ่ายรูปที่นั่นตั้งแต่ปี 2009”
…เอ่อ…ขออนุญาตถามกลับด้วยความเคารพว่า นี่คือหลักฐานแสดงอธิปไตยหรือครับ?

ถ้าใช้ตรรกะ “ถ่ายรูปที่ไหน ที่นั่นเป็นของเรา” ไทยก็มีสิทธิ์ “ทวงปราสาทบายน” กลางเมืองพระนครกลับคืนได้เช่นกัน เพราะ…

“ในรัชกาลที่ 5 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ” ได้เคย เสด็จไปยังนครธม และถ่ายภาพที่ปราสาทบายน ไว้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19

ไม่ใช่แค่ถ่ายรูป แต่เป็นการ “ตรวจราชการหัวเมืองชายแดน” ตามพระราชบัญชาแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แสดงถึงอำนาจอธิปไตยที่ “สยาม” มีต่อดินแดนแถบนั้นในยุคก่อนการแบ่งแยกโดยเจ้าอาณานิคม
ภาพถ่ายนั้น วันนี้ยังคงอยู่ เป็นหลักฐานประวัติศาสตร์ ไม่ใช่แค่เพ้อเจ้อข้ามแดน แล้วมาสร้างวาทกรรมแบบ #เจ้าของภาพ = เจ้าของแผ่นดิน

ล่าสุดวันนี้ (3 มิ.ย.) เพจปราชญ์ สามสี ได้โพสต์ข้อความระบุอีกว่า เจ็บจี๊ดถึงกรุงปารีส! “ปราสาทบายน” ตะโกนลั่นยุโรป — ของสยาม!

ใครจะไปคิดว่า…กลางกรุงปารีส เมืองหลวงของเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศส จะซ่อน ระเบิดความจริง ไว้ลูกใหญ่! โมเดลจำลอง “ปราสาทบายน” (Le Bayon) ณ Musée Guimet หรือพิพิธภัณฑ์กีเมต์ ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเยี่ยมชม กลับเขียนป้ายชัดถ้อยชัดคำ!
“Monument khmer à Angkor-Thom — SIAM”
(อนุสรณ์สถานเขมร ณ นครธม — สยาม)

ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิด…”สยาม” — ไม่ใช่ “กัมพูชา” อย่างที่บางฝ่ายพยายามเขียนใหม่ทุกวันนี้!
ที่สำคัญ โมเดลนี้ไม่ได้เพิ่งสร้างหลังสงครามโลก ไม่ได้มโนยุคหลังเฟซบุ๊ก แต่ถูกหล่อขึ้น ตั้งแต่ปี 1899 (พ.ศ. 2442) โดย กัปตัน A. Filoz วิศวกรจากฝรั่งเศสในยุคล่าอาณานิคม เป็นงานโชว์โลกตะวันตกว่า “เขมรในสยาม” คือศิลปะที่ยิ่งใหญ่แค่ไหนในเอเชียอาคเนย์!
และใช่…มันคือช่วงเวลาเดียวกับที่ฝรั่งเศสเพิ่งยัดเยียด สนธิสัญญาปี 2447 ให้ไทยยอมเสียดินแดนพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ — พร้อม นครวัด-นครธม ให้แก่กัมพูชา ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส
ก่อนหน้านั้นล่ะ? เป็นของใคร?
คำตอบอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว — “SIAM”