ล่าสุดวันนี้ (21 ก.ค.) พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์ท็อปนิวส์ ในรายการจับตาประเทศไทย ถึงประเด็นทุ่นระเบิดใหม่ สังหารบุคคลชนิด PMN-2 โดยเปิดเผยว่า ทุ่นระเบิดจำนวนมาก ถ้าให้ย้อนครั้งอดีต มีการวางไว้ 3 ระลอกใหญ่ ครั้งแรกสงครามคอมมิวนิสต์ อเมริกาวางไว้ ปูพรมตรงด้านตะวันออกของเขมร ต่อมาคือเขมรแดง เขมรรบกันเอง เขมรเขาก็ทะเลาะกันเองหลายฝ่าย โดยใช้ทุ่นระเบิดมาวาง ทำแบบนี้เรื่อยมาตั้งแต่เขมรแดง ต่อมารอบที่ 3 ตอนสงครามเวียดนามเข้ายึดเขมร ตอนรบกันพอทหารเขมรหนีเข้ามาฝั่งไทย ก็เอาทุ่นระเบิดเขามาวางในฝั่งไทยด้วย หน่วยงานที่เข้าไปสำรวจทั้งหมด มีเป็นล้านลูกเลย ตัวเลขนี้เป็นล้านลูก ตอนนั้นเป็นระเบิดที่มาจากจีนแล้วก็รัสเซีย เขมรเป็นดินแดนแห่งทุ่นระเบิดเลยก็ว่าได้ นี่คือพื้นหลังของประเทศนี้ ตอนทำสงครามสมัยก่อน ไม่ได้แยกเส้นเขตแดนกัน เพราะสับสนกันอยู่ ก็ทะลักเข้ามาวางฝั่งไทยด้วย ดังนั้นนี่คือดินแดนแห่งผู้พิการ แขน ขาขาด มากกว่า 65,000 ราย จาก 3 รอบใหญ่ตั้งอดีต

เมื่อสอบถามว่า การกู้ระเบิด ได้มีขึ้นหรือไม่ ทั้ง 3 ระลอกที่ผ่านมา พล.อ.นิพัทธ์ ได้กล่าวว่า ตอนนั้นพอสงครามสงบ เขมรเก็บกู้ไม่ไหว ก็มีขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ และเขาก็ตั้งหน่วยงานกอบกู้มากว่า 10 ปีแล้ว เก็บกู้ด้วยมือและใช้เงินจากหน่วยงานนานาชาติทั้งสิ้น ทุกวันนี้ไทยก็มีหน่วยเก็บกู้ จนครั้งล่าสุดที่ทหารไทยเหยียบ ไปเจอว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ ไม่แปลกใจที่เขมรไม่ยอมรับ บอกว่าไม่ได้ทำ เพราะเป็นหลักปฏิบัติของทหารเขมรอยู่แล้ว เราเผชิญหน้ากันมา ทุ่นระเบิดมันคือเครื่องจักรสังหาร ไม่ต้องเสียแรงเฝ้า เป็นลักษณะนิสัยเขมรที่เรารู้กัน การทำงานของกองทัพตอนนี้ มันอาจจะช้าสักนิด แต่ต้องจับให้มั่น คั้นให้ตาย มันต้อบรอบคอบ เก็บหลักฐาน เอาเป็นว่าเข้ามาในพื้นที่ฝั่งไทย

ทั้งนี้พบว่าระเบิดที่วางล่าสุด PMN-2 นั้น สิ่งที่เขมรทำนั้นประจักษ์ชัดแล้ว มีการวางแบบคลัสเตอร์เป็นกลุ่ม ๆ ล้อมหน้าหลังทั้งหมด คาดว่าให้ทหารเหยียบเข้ามาแล้วโดนเต็ม ๆ ถ้ายังไม่โดน ขยับไปซ้าย ไปขวา หน้า หลัง ต้องไม่ให้รอด ตอนนี้ที่กระทรวงการต่างประเทศ ก็เตรียมที่จะส่งหลักฐานไปฟ้อง UN เพราะมันชัดเจนว่ากองทัพไทยบ้านเราไม่มีระเบิดชนิดนี้ สามารถตรวจสอบได้ และมีหลักฐานว่า เขมรยังต้องนำเข้าอาวุธจากประเทศใดประเทศนึงอยู่

แม้ว่าเขมรจะไม่ยอมรับ เราก็ต้องเก็บหลักฐานให้เขาเถียงไม่ได้ การทำงานของแต่ละหน่วยอาจจะช้าไปสักนิด แต่มันต้องทำเป็นขั้นตอน เราต้องละเอียดจริง ๆ ตอนนี้แบ่งกันทำงานเป็น 2 ระดับ ระดับทหารชายแดน เขาจะรู้หน้าที่ วางเกมว่าต้องทำอย่างไรต่อ อย่างเมื่อวานก็มีการส่งแทรกเตอร์หุ้มเกราะเข้าไปไถพื้นที่ เพราะยังมีระเบิดหลงเหลืออีกด้วย

ส่วนการทำงานของหน่วยงานที่จะเก็บหลักฐาน ระดับข้างบน ก็จะรวมหลักฐาน ส่งฟ้องต่อ UN ว่าเขมรทำผิดสัญญาก็จะดำเนินการต่อไปอีก เขมรละเมิดอนุสัญญาออตตาวา เป็นสิ่งที่ชาวโลกจะต้องมารับรู้ ว่าเขมรทำอะไรไว้ เราจะต้องประท้วงและแสดงฝีมือในเวทีโลกต่อไป