เดอะ พนมเปญโพสต์รายงานว่าสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าวระหว่างการเรียกประชุมสมาชิกรัฐสภากัมพูชาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (จันทร์ที่ 2 มิย.) เตือนว่าสถานการณ์ความขัดแย้งที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชาอาจยกระดับความรุนแรงกลายเป็นกาซา เกิดการสู้รบอย่างไม่จบสิ้นเหมือนอิสราเอลและปาเลสไตน์ หากกัมพูชาและไทยไม่ยื่นเรื่องนี้ไปพิจารณาตัดสินกันในศาลโลก
ฮุนเซนกล่าวว่าการที่กัมพูชาเชิญประเทศไทยยื่นเรื่องส่งศาลโลกด้วยกันถือสะท้อนถึงการให้เกียรติกันเพื่อร่วมแก้ปัญหาความข้ดแย้งผ่านวิธีการทางการทูต และว่าถ้าไทยยังคงหลบเลี่ยงไม่ยอมไปศาลโลกอยู่อย่างนี้ แสดงว่าไทยปิดบังอะไรอยู่หรือเปล่า และว่าจะกลัวไปศาลทำไมถ้ามีความจริงใจ
อดีตผู้นำกัมพูชาชี้ว่า MOU ที่ไทยและกัมพูชาทำเอาไว้ในปี 2543 หรือ 25 ปีที่แล้ว ไม่มีประโยชน์และไม่มีผลอะไรแล้ว พร้อมย้ำว่าการปะทะเมื่อ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมาทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย
ฮุนเซนกล่าวต่อว่ากัมพูชาไม่ได้อยากได้ดินแดนของใคร เพียงแค่ต้องการรักษาดินแดนที่เหลือจากยุคอาณานิคมของฝรั่งเศสเอาไว้ เพราะกัมพูชาเสียดินแดนไปมากพอแล้วในอดีต ตอนนี้ก็เหลือแค่หยิบมือเดียวจึงจำเป็นต้องปกป้อง
ทั้งนี้ที่ประชุมสภากัมพูชาได้มีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ 182 เสียง เห็นด้วยกับรัฐบาลกัมพูชาที่จะยื่นข้อพิพาทพรมแดนไปศาลโลก
ฮุนเซนยังบอกต่อว่าถ้ายังเกิดเหตุปะทะขึ้นอีก กัมพูชาจะยื่นเรื่องร้องเรียนถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือ UNSC
ด้านนายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ตก็ประกาศในสภาว่ากัมพูชาจะยื่นเรี่องนี้ไปสู่ศาลโลกไม่ว่าไทยจะเห็นด้วยหรือไม่ ขณะที่การเจรจาผ่านคณะกรรมการร่วมชายแดน (JBC) ก็ดำเนินต่อไป พร้อมเรียกร้องนักการเมืองและประชาชนกัมพูชาร่วมแรงแข็งขันเป็นหนึ่งเดียวสนับสนุนกองทัพกัมพูชาในการปกป้องดินแดนและอธิปไตย โดยขอให้หยุดเรื่องความบาดหมางภายในเอาไว้ก่อน