นายฌอง-อีฟว์ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีต่างประเทศของฝรั่งเศสกล่าวว่า เอกอัครราชทูตของฝรั่งเศสจะเดินทางกลับออสเตรเลีย ภายใต้ภารกิจ 2 ภารกิจคือ เพื่อช่วยกำหนดเงื่อนไขความสัมพันธ์ระหว่างฝรั่งเศสกับออสเตรเลียในอนาคต และเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของฝรั่งเศสจากการตัดสินใจของออสเตรเลียในการยุติโครงการเรือดำน้ำที่เคยทำร่วมกัน
หลังจากที่มีกรณีร่วมกันที่ออสเตรเลียยกเลิกสัญญาว่าจ้างฝรั่งเศสสร้างเรือดำน้ำ แล้วหันไปพึ่งสหรัฐและอังกฤษแทนนั้น ฝรั่งเศสได้แสดงความไม่พอใจด้วยการเรียกตัวทูตของตนประจำสหรัฐและออสเตรเลียกลับประเทศ ซึ่งต่อมา ทางผู้นำของสหรัฐและฝรั่งเศสได้มีการพูดคุยปรับความเข้าใจกัน แต่ระหว่างฝรั่งเศสและออสเตรเลียนั้น ยังไม่มีความคืบหน้าถึงการพูดคุยกันแต่อย่างใด
ฝรั่งเศสได้พิจารณาความเป็นหุ้นส่วนกับออสเตรเลียที่มีมาตั้งแต่ปี 2559 ว่าเป็นรากฐานที่สำคัญของนโยบายอินโด-แปซิฟิก ซึ่งหลังจากฝรั่งเศสได้ทบทวนความสัมพันธ์ทวิภาคีกับออสเตรเลียอย่างถี่ถ้วนแล้ว จึงเห็นว่าข้อตกลงเรือดำน้ำเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่เป็นวงกว้าง การเริ่มต้นใหม่ในความสัมพันธ์ทวิภาคีของทั้ง 2 ประเทศจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อความมุ่งมั่นของฝรั่งเศสที่ต้องการมีส่วนร่วมในแปซิฟิกต่อไป
ด้านออสเตรเลียก็ได้แสดงความรู้สึกเสียใจกับการเรียกตัวเอกอัครราชทูตกลับของฝรั่งเศส เพราะฝรั่งเศสมีความสำคัญและยังต้องการติดต่อร่วมกันต่อไปในประเด็นต่างๆ รวมถึงอินโด-แปซิฟิก ด้านนักการทูตมองว่าการดำเนินการร่วมกันอย่างเข้มแข็งกับออสเตรเลีย จะเป็นประโยชน์กับฝรั่งเศสในภูมิภาคนี้