วิธีคำนวณค่าเสียหายข้าวจีทูจีเก๊ 4 สัญญายุคยิ่งลักษณ์
ปริมาณข้าวรวม 6,439,000 ตัน

มีการส่งมอบข้าวตามสัญญาเป็นปริมาณ รวม 4,939,190 ตัน
คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 70,549,222,014 บาท

ทำสัญญาขายข้าวในราคาต่ำราคาข้าวในท้องตลาด
คำนวณค่าเสียหาย โดยนํามูลค่าข้าวที่ตกลงขายตามสัญญา มาเปรียบเทียบกับมูลค่าข้าว ณ วันทำสัญญา ผลต่างมูลค่าข้าวจะเป็นค่าเสียหาย 20,014,284,133.16 บาท

แยกความเสียหายเป็นแต่ละสัญญา ดังนี้

สัญญาฉบับที่ 1 ขายบริษัท กว่างตง จํากัด มูลค่าความเสียหายจำนวน 10,991,736,179.90 บาท (มูลค่าข้าวหลังหักค่าเสื่อมสภาพข้าวบาท 29,199,892,766.26 – มูลค่าตามสัญญา 18,208,156,586.36)

สัญญาฉบับที่ 2 ขายบริษัท กว่างตง จํากัด มูลค่าความเสียหายจำนวน 2,135,632,483.87 (มูลค่าข้าวหลักหักค่าเสื่อมสภาพข้าว 31,123,744,136.75 – มูลค่าตามสัญญา 28,988,111,652.88 บาท)

สัญญาฉบับที่ 3 ขายบริษัท กว่างตง จํากัด มูลค่าความเสียหายจำนวน 6,687,419,994.09 บาท (มูลค่าข้าวหลังหักค่าเสื่อมสภาพข้าว 29,193,285,363.25 บาท – มูลค่าตามสัญญา 22,505,865,369.16 บาท)

สัญญาฉบับที่ 4 ขายบริษัท ห่ายหนาน จํากัด มูลค่าความเสียหายจำนวน 199,495,495.30 บาท (มูลค่าข้าวหลังหักค่าเสื่อมสภาพข้าว 1,046,583,901 บาท – มูลค่าตามสัญญา 847,088,405.70 บาท)

นอกจากนี้ ยังมีความเสียหายจากการชําระราคาข้าวตามสัญญา น้อยกว่ามูลค่าข้าวที่มีการรับมอบจริง อีก 43,439,648.50 บาท

ดังนั้น เมื่อรวมความเสียหายตามสัญญาทั้ง 4 ฉบับ คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 20,057,723,761.66 บาท (20,014,284,133.16 บาท + 43,439,648.50 บาท) ศาลปกครองสูงสุด ให้อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ร่วมรับผิดชอบเพียง 50% จึงคิดเป็นเงิน 10,028 ล้านบาท จะเห็นว่า มีการพิจารณาอย่างละเอียด แยกส่วนชัดเจน ซึ่งความเสียหายส่วนนี้ ไม่เกี่ยวอะไรกับการช่วยชาวนาเลย อย่ามาอ้างเรื่องเจตนาดี อยากช่วยชาวนา ฟังไม่ขึ้นเลย

สุดท้าย อดีตนายกฯ ควรชำระค่าสินไหมทดแทน ตามคำพิพากษาชี้ขาดของศาลปกครองสูงสุด
ประเทศชาติจะได้เงินกลับคืนมาใช้หนี้