สะพัด! เสียงคณะกรรมการกลั่นกรองมติแพทยสภา ทีม “สมศักดิ์” แตก พบมีทั้งเสนอให้วีโต้-ไม่วีโต้ มติลงดาบแพทย์ 3 คน

สะพัด กุนซือ “สมศักดิ์” เสียงแตก หาข้อสรุปไม่ได้วีโต้หรือไม่ จับตาเริ่มปล่อยข่าวมติแพทยสภามีข้อสงสัย – Top News รายงาน

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข หนึ่งในคณะกรรมการเสนอความเห็นต่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ เพื่อพิจารณามติแพทยสภา ที่ลงโทษแพทย์ 3 คน กรณีการส่งตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจว่า กรรมการจะนัดประชุมวันจันทร์นี้ เพื่อนำเอกสารทั้งหมดมาหารือพูดคุยกัน จากนั้นจะนัดประชุมนัดสุดท้าย เพื่อลงมติ ในวันอังคารที่ 27 พฤษภาคม 2568 แล้วส่งมติและความเห็นของกรรมการฯ ถึงนายสมศักดิ์ในวันดังกล่าว เพื่อให้ทันตามกรอบเวลาที่นายสมศักดิ์ต้องมีความเห็นภายในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้

ด้านแหล่งข่าวจากกรรมการฯ ชุดดังกล่าวอีกคนหนึ่ง บอกว่า ได้ยินกระแสข่าวว่า นายสมศักดิ์อาจจะขอให้กรรมการเลื่อนการประชุมในวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคมออกไปก่อน แต่ยังยืนยันไม่ได้ อาจจะมีประชุมตามเดิมก็ได้ เพราะได้ข่าวมาว่าจะให้กรรมการ ประชุมลงมติเสนอความเห็นในวันที่ 28 พฤษภาคม จากนั้นจะส่งหนังสือถึงนายสมศักดิ์ เพื่อทำความเห็นในวันที่ 29 พฤษภาคม ก็ยังทันตามกรอบเวลา 15 วัน ที่นายสมศักดิ์ต้องทำความเห็นว่าจะวีโต้หรือไม่วีโต้มติแพทยสภา ภายในไม่เกิน 30 พฤษภาคม

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าวยังได้ให้ข้อมูลอีกว่า คณะกรรมการฯ ได้ทำหนังสือถึงแพทยสภา เพื่อขอให้ส่งเอกสารเพิ่มเติม ที่เป็นส่วนสำคัญในการสอบสวน และมติของคณะอนุกรรมการของแพทยสภาที่สอบสวนเรื่องนี้ รวม 4 ชุด ที่รวมหมดตั้งแต่ อนุกรรมการและมติที่ประชุมใหญ่แพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ลงโทษแพทย์ทั้ง 3 คน แต่ปรากฏว่าจนถึงวันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม ทางแพทยสภายังไม่ส่งเอกสารมาให้ตามที่ร้องขอ โดยมีการประสานมาว่าเอกสารที่ส่งมาให้เพียงพอแล้ว ดังนั้นคณะกรรมการฯ ก็จะไม่ทวงถามอีกแล้ว ทางกรรมการฯ จะทำความเห็นตามข้อมูลที่แพทยสภาส่งให้นายสมศักดิ์ รวมถึงหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจากแพทย์ทั้ง 3 คน ที่ยื่นกับนายสมศักดิ์

ข่าวที่น่าสนใจ

“จักรภพ” กางคิว “ทักษิณ” ออกงานในกรุงฯ โต้ลือหนีไปกัมพูชา แซวฝ่ายต้าน อย่าหมกมุ่นมาก

“หมอวรงค์” ขอบคุณอัยการทำหน้าที่ กางข้อมูล ความเสียหาย “ขายข้าวจีทูจี” ชี้ชัด “ยิ่งลักษณ์” รู้เห็นแต่ไม่ยับยั้งโกง

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการฯ กล่าวอีกว่า ประเด็นที่กรรมการเห็นว่าข้อมูลที่แพทยสภาส่งมาไม่สมบูรณ์ ก็เพราะเอกสารผลการสอบสวนและมติลงโทษของแพทยสภา มีการเสนอให้ลงโทษแพทย์ 3 คน คือ พลตำรวจโท นายแพทย์ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ถูกพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 6 เดือน, พลตำรวจโทโสภณรัชต์ สิงหจารุ อดีตนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ปัจจุบันเป็น ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถูกพักใบอนุญาติประกอบวิชาชีพเวชกรรม 3 เดือน และแพทย์หญิงรวมทิพย์ สุภานันท์ แพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ถูกตักเตือน ซึ่งกรรมการฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า เอกสารผลการสอบสวนและมติของอนุกรรมการของแพทยสภา ยังมีความไม่สมบูรณ์ เพราะเอกสารบางชุดมีการสรุปผลสอบแพทย์บางคน พบว่าเสียงข้างมากบอกว่าไม่ต้องลงโทษ แต่เสียงข้างน้อยบอกว่าผิดต้องลงโทษ แล้วพอลงมติสรุปจริงๆ ในที่ประชุมใหญ่ ปรากฏว่ากลับไปเอาตามเสียงข้างน้อย ทางกรรมการก็เลยอยากรู้ว่าการลงมติโดยละเอียดของอนุกรรมการทั้งหมดกับที่ประชุมใหญ่แพทยสภาเป็นอย่างไร แต่แพทยสภาไม่ส่งรายละเอียดตรงนี้ให้ ทำให้ไม่รู้การลงมติและบทลงโทษที่ชัดเจน รวมถึงกรณีที่แพทย์อีกหนึ่งคน ซึ่งอนุกรรมการสอบเสนอให้ลงโทษด้วยเพราะมีการเสนอให้ลงโทษแพทย์ 4 คนไม่ใช่แค่ 3 คน แต่ที่ประชุมใหญ่แพทยสภา ลงมติไม่เอาผิด ไม่มีการลงโทษ คนที่ 4 ให้ลงโทษแค่ 3 คน แต่ไม่มีการให้รายละเอียดดังกล่าวมายังกรรมการกลั่นกรอง จนมีกรรมการบางคนเสนอความเห็นว่า หากเป็นแบบนี้ ถ้ามติอนุกรรมการไม่ชอบ การวินิจฉัยของที่ประชุมใหญ่แพทยสภาก็อาจไม่ชอบด้วยก็ได้ ก็อาจเสนอมุมนี้ให้นายสมศักดิ์พิจารณาในการวีโต้มติแพทยสภา

“ในการทำความเห็นของคณะกรรมการกลั่นกรอง กรรมการทั้ง 10 คน จะมีการลงมติด้วยการออกเสียง แล้วใช้เสียงข้างมากเป็นมติแจ้งต่อนายสมศักดิ์ ยืนยันว่ากรรมการทั้ง 10 คน มีความเห็นที่หลากหลายไม่สามารถล็อบบี้ได้ บางคนเห็นว่าการสอบสวนและมติแพทยสภาทำถูกต้องหมดแล้ว แต่บางคนก็เห็นว่ายังไม่สมบูรณ์ ควรที่นายสมศักดิ์ต้องวีโต้ ซึ่งนายสมศักดิ์ จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ได้” แหล่งข่าวจากคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ระบุ

ทั้งนี้ หากนายสมศักดิ์วีโต้มติแพทยสภา แพทยสภาจะนำผลวีโต้ดังกล่าว มาหารือและลงมติในการประชุมใหญ่กรรมการแพทยสภาวันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายนนี้ ซึ่งการจะยืนยันมติเดิมแพทยสภาให้ลงโทษแพทย์ทั้ง 3 คน จะต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของกรรมการแพทยสภา คือต้องได้เสียง 47 เสียงขึ้นไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง