วอลล์สตรีท เจอร์นัล สื่อใหญ่สหรัฐฯ รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้บอกกับผู้นำยุโรป เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ไม่พร้อมยุติสงครามในยูเครน เพราะเชื่อว่ารัสเซียจะชนะสงครามในที่สุด
รายงานของวอลล์ สตรีท อ้างแหล่งข่าว 3 คนที่ทราบรายละเอียดการสนทนาของทรัมป์กับผู้นำยุโรป ซึ่งเกิดขึ้น 1 วัน หลังทรัมป์ต่อสายคุยกับผู้นำรัสเซียเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม การประเมินของทรัมป์ เป็นไปตามที่ผู้นำยุโรปเชื่อมานานว่า ปูตินไม่คิดทำความตกลงสันติภาพในเวลานี้ แต่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินว่า ผู้นำสหรัฐฯมีความเห็นสอดคล้องกัน และขัดกับสิ่งที่ทรัมป์พูดต่อสาธารณะบ่อย ๆ ว่าเขาเชื่อมั่นว่า ปูตินต้องการสันติภาพอย่างแท้จริง
ถึงตระหนักแล้วว่าปูตินไม่คิดหยุดสู้รบ แต่ทรัมป์ ก็ไม่ตอบรับข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครน และผู้นำยุโรป ที่ต้องการให้สหรัฐฯเข้าร่วมกดดันรัสเซียด้วยมาตรการคว่ำบาตร
รายงานระบุว่า ก่อนคุยสายกับปูติน 2 ชั่วโมงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทรัมป์ประชุมทางไกลและแจ้งผู้นำยุโรปว่า เป็นไปได้ที่สหรัฐฯอาจร่วมแซงชั่นรัสเซียในภาคพลังงานและธนาคาร หากไม่ยอมหยุดยิง แต่หลังจากคุยกับปูติน ทรัมป์ก็เปลี่ยนใจอีก และบอกผู้สื่อขาวในวันต่อมา ว่า นี่ไม่ใช่สงครามของสหรัฐฯ เราจะไม่พาตัวเองไปพัวพันกับเรื่องที่เราไม่ควรเกี่ยวข้อง
วอลล์สตรีท เจอร์นัล อ้างคำพูดแหล่งข่าวยุโรปว่า แม้ความพยายามดึงทรัมป์มาร่วมคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมไม่สำเร็จ แต่ยุโรปก็มองไปในทางบวกว่า อย่างน้อย ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วสำหรับทุกฝ่าย รวมถึงทรัมป์ ว่าปูตินไม่มีเจตนารมณ์ยุติสงครามในขณะนี้ และสำหรับประเทศยุโรปเอง ก็ช่วยตอกย้ำว่า การสนับสนุนยูเครนจะต้องขึ้นอยู่กับยุโรปเป็นหลัก
ทั้งนี้ ระหว่างคุยสายกับผู้นำฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลีและอังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ ทรัมป์กล่าวว่าเขามีแผนจะส่ง มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และคีธ เคลล็อก ทูตพิเศษด้านยูเครน-รัสเซีย ไปร่วมเจรจาที่นครวาติกัน ในเดือนหน้า ผู้นำยุโรปยืนยันว่า การจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่วาติกัน ไม่ว่าจะระดับไหน ควรได้ผลลัพธ์เป็นการหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไข แต่ทรัมป์ บอกว่าเขาไม่ชอบคำว่า “ไม่มีเงื่อนไข” และอ้างว่าไม่เคยใช้คำมานี้มาก่อน แต่จริง ๆ แล้ว ทรัมป์เคยใช้คำนี้ตอนโพสต์ทรูธ โซเชียล เมื่อ 8 พฤษภาคม ในการเรียกร้องสองฝ่ายหยุดยิง 30 วันอย่างไม่มีเงื่อนไข
อย่างไรก็ดี ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน แถลงเมื่อวาน (22 พ.ค.)ว่า รัสเซียยังไม่มีแผนเจรจากับยูเครนต่อ หลังคุยโดยตรงครั้งแรกที่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะนี้ รัสเซียกำลังมุ่งทำงานเรื่องการแลกเปลี่ยนเชลย 1 พันคน ซึ่งเป็นผลลัพธ์จับต้องได้อย่างเดียวจากการเจรจาที่ตุรกี รัสเซียส่งมอบรายชื่อเชลยศึก 1 พันคน ที่ต้องการแลกเปลี่ยนกับยูเครนแล้ว และกำลังรอรายชื่อจากฝ่ายยูเครน