สำนักข่าว CNN รายงานโดยอ้างการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯหลายคนว่า สหรัฐฯได้รับข่าวกรองใหม่ที่บ่งชี้ว่า อิสราเอลกำลังเตรียมการโจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่ยังไม่ชัดเจนว่า ผู้นำอิสราเอลตัดสินใจในขั้นสุดท้ายแล้วหรือยัง และภายในรัฐบาลสหรัฐฯเอง ก็ยังมีความเห็นต่างกันว่า อิสราเอลจะลงมือหรือไม่ในท้ายที่สุด แต่ภาพรวมมองว่า อิสราเอลจะโจมตีหรือไม่และอย่างไร จะขึ้นอยู่กับผลเจรจาระหว่างสหรัฐฯกับอิหร่าน
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯในแวดวงข่าวกรอง กล่าวว่า โอกาสที่อิสราเอลจะโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์อิหร่าน เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่การเจรจาของรัฐบาลทรัมป์กับอิหร่าน จะไม่นำไปสู่การยกเลิกเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียมของอิหร่าน ไม่เพียงเจ้าหน้าที่ระดับสูงอิสราเอล พูดเรื่องการพิจารณาโจมตีอิหร่านอย่างเปิดเผยและส่วนตัวเท่านั้น แต่จากการสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวของกองทัพอิสราเอล และการสื่อสารที่ดักฟังได้ ยังชี้ว่า การโจมตีอาจเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ โดยการเตรียมการทางทหารที่สหรัฐฯสังเกตเห็น คือการเคลื่อนย้ายเครื่องกระสุนทางอากาศ และการซ้อมรบทางอากาศที่เสร็จสิ้นลงแล้ว แต่อีกด้านหนึ่ง สิ่งบ่งชี้เหล่านี้ อาจเป็นแค่ความพยายามกดดันอิหร่าน ให้ยกเลิกเงื่อนไขสำคัญในการเจรจาเรื่องโครงการนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ ด้วยการส่งสัญญาณถึงผลตามมาหากไม่ยอมทำตาม
อิสราเอลมองว่านี่เป็นโอกาสที่ดี เพราะอิหร่านอยู่ในสถานะทางทหารอ่อนแอที่สุดในรอบหลายสิบปี หลังจากอิสราเอลถล่มโรงงานผลิตขีปนาวุธและระบบป้องกันทางอากาศเมื่อตุลาคมปีที่แล้ว บวกกับเศรษฐกิจย่ำแย่จากมาตรการแซงชั่น อีกทั้งกลุ่มตัวแทนอิทธิพลอิหร่านในภูมิภาคก็ง่อยเปลี้ยเสียขา หลังถูกอิสราเอลถล่มหนัก เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งบอก CNN ว่า สหรัฐฯจะเพิ่มการรวบรวมข่าวกรองเพื่อช่วยเหลือ หากผู้นำอิสราเอลตัดสินใจโจมตี แต่แหล่งข่าวอีกรายในรัฐบาลทรัมป์ บอกว่า รัฐบาลไม่น่าช่วยอิสราเอลโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์อิหร่านในเวลานี้ ทั้งนี้ อิสราเอลไม่มีศักยภาพทำลายล้างโครงการนิวเคลียร์อิหร่านโดยลำพัง ถ้าอเมริกาไม่ช่วย เช่น การเติมน้ำมันกลางอากาศ และสนับสนุนลูกระเบิดที่ต้องใช้เจาะโครงสร้างใต้ดิน
สหรัฐฯกับอิหร่านจัดการเจรจาทั้งทางตรงและอ้อมมาแล้ว 4 รอบ โดยโอมานเป็นผู้ไกล่เกลี่ย คาดว่าการเจรจารอบต่อไป อาจจัดขึ้นในยุโรปภายในสัปดาห์นี้ ประเด็นติดขัดคือการเรียกร้องให้อิหร่านต้องหยุดการเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียม ที่อาจนำไปใช้ผลิตระเบิดนิวเคลียร์ได้ นายสตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของทรัมป์และหัวหน้าทีมเจรจาสหรัฐฯ บอกสำนักข่าว ABC เมื่อสุดสัปดาห์ว่า สหรัฐฯไม่สามารถยอมให้อิหร่านเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียมได้แม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว
ด้าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน กล่าวเมื่อวาน ( 20 พ.ค.) ว่า เขาไม่คาดหวังว่าการเจรจากับสหรัฐฯ จะนำไปสู่การบรรลุความตกลงกันได้ และบอกว่า การเรียกร้องอิหร่าน ห้ามเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเยียม เป็นความผิดพลาดเรื่องใหญ่ ตัวแทนสหรัฐฯในที่เจรจา ควรหยุดพูดเรื่องเหลวไหลได้แล้ว เพราะอิหร่านมีสิทธิที่จะทำได้ ภายใต้สนธิสัญญาไม่แพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ และจะไม่มีวันยอมสละสิทธินี้