“ท่าน ว.วชิรเมธี” โต้โซเชียลทำคลิป “ไร่เชิญตะวัน” ปล่อยร้าง แจงข้อเท็จจริงละเอียด

ส่วนผู้ที่มานอกเวลาทำการ และปล่อยข้อมูลเท็จออกไป ทนายตั้งเรื่องและส่งฟ้องเรียบร้อย มีคนมาล็อบบี้ขอให้ถอนฟ้อง แต่ทางทนายคงทำให้ไม่ได้ ทำอะไรก็ต้องรับผิดชอบ การนำเสนออะไรผ่านโซเซียล อย่าทำไปเพราะว่าหิวแสงจนเกินไป ไม่ใช่อยากถ่ายอะไรก็ถ่าย บุกไปถ่ายถึงบนกุฏิพระ ทนายก็ต้องทำหน้าที่ปกป้องสิทธิ์ และศักดิ์ศรีของทางไร่เชิญตะวัน

อย่ามากล่าวหาว่าพระไม่มีเมตตา พระอาจารย์ไม่ได้ฟ้อง ผู้ที่ฟ้องคือลูกศิษย์ที่เป็นทีมทนาย ส่วนที่ จ.เชียงราย ดูเงียบๆ ไป อย่าลืมว่า ปีที่ผ่านมา เจอน้ำท่วมอย่างหนักหลายพื้นที่ ยังซ่อมบ้านไม่เสร็จ ปีนี้มาเจอน้ำกกเน่า มีสารพิษอีก เพราะฉะนั้นถ้ารักจะเป็นนักข่าว อย่านำเสนอเรื่องราวที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงออกไปสู่โซเซียล อยากให้หาความรู้เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการท่องเที่ยวด้วย ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร ไม่ใช่อยากไลฟ์สดดตรงไหนก็แบกกล้องไปนำเสนอข้อมูลเท็จออกไปต่อสาธารณชน

ส่วนกรณีที่ไปประเทศญี่ปุ่น เป็นการไปสร้างวัด ถวายหลวงพ่อพระอุปัชฌาชย์ (พระเทพสิทธินายก (ชื่น ปญฺญาธโร) อดีตเจ้าอวาสวัดพระสิงห์ อดีตเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย) ทำมาแล้วนับ 10 ปี ตอนนี้มี 2 วัด วัดล่าสุด (วัดหลวงพ่อชื่นพุทธาราม จังหวัดไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น) เพิ่งมีการผูกพัทธสีมา การสร้างวัดทำไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พระอาจารย์จึงไป ๆ มา ๆ ระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ในฐานะพระธรรมทูต ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ใครจะทำข่าวอะไรอยากให้ทำการบ้านเยอะ ๆ อิงข้อเท็จจริง อย่าไปทำข่าวแล้วพูดอะไรเอามัน จนกระทบกับศาสนาและสถาบันสงฆ์โดยรวม ไม่ใช่หวังเอายอดไลค์ยอดแชร์อย่างเดียว อย่าไปรู้ผิด คิดเอา เดาเก่ง ขอให้มีจรรยาในวิชาชีพกันหน่อย อย่าเอาขยะข้อมูลปฏิกูลข่าวสารไปนำเสนอกับประชาชน

ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นกับวัดไร่ขิงที่เป็นข่าวดังอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งมีสำนักสงฆ์บางแห่งถูกมองว่าเป็นแหล่งฟอกเงินนั้น ท่าน ว.วชิรเมธี กล่าวว่า เรื่องการเงินถ้าทำให้ถูกต้อง ก็จะไม่มีปัญหาตั้งแต่ต้น ที่ไร่เชิญตะวันทำในรูปแบบมูลนิธิ สามารถตรวจสอบได้ บัญชีเดียวของพระอาจารย์ที่มีเป็นบัญชีนิตยภัต(เงินเดือน)ของพระเปรียญ 9 ส่วนการเงินอื่นๆ ให้อยู่ในรูปของมูลนิธิ รวมทั้งการไปบรรยายธรรมต่างๆ มีผู้ถวายมาก็เข้าบัญชีมูลนิธิ ท่านใดอยากรู้ข้อเท็จจริง ตรวจสอบได้ที่มูลนิธิ อย่ารู้ผิด-คิดเอา-เดาเก่ง ในส่วนของตัวพระอาจารย์และไร่เชิญตะวันเป็นแบบนี้ ส่วนหนึ่งของพระสังฆาธิการรูปอื่นหรือวัดอื่นไม่ขอก้าวล่วง

ส่วนเรื่องคดีดิไอคอน ท่าน ว.วชิรเมธี บอกว่าเป็นเรื่องเซนซิทีฟ ขอผ่านไม่อยากพูดถึงอีกแล้ว