BBC, AFP และอัลจาซีราอ้างแถลงการณ์ของทำเนียบขาวที่เปิดเผยผลการพูดคุยระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับ อาห์เหม็ด อัล-ชารา รักษาการประธานาธิบดีซีเรียที่หารือกันเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงในกรุงริยาดห์ ของซาอุดิอาระเบียในวันนี้ (พุธที่ 14 พค.) โดยทรัมป์ได้เรียกร้องอัล-ชาราให้ปรับความสัมพันธ์กลับสู่ระดับปกติกับอิสราเอลด้วยการเข้าร่วมลงนามในข้อตกลงอับราฮัม ที่หลายประเทศอ่าวอาหรับได้ลงนามเอาไว้ นอกจากนี้ก็บอกให้อัล-ชาราจัดการเนรเทศกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ออกจากซีเรีย รวมทั้งเข้ายึดค่ายของกลุ่มติดอาวุธเคิร์ด ศัตรูสำคัญของตุรกี
การเรียกร้องของทรัมป์มีขึ้นหลังจากทรัมป์ประกาศยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรซีเรียตามคำขอของซาอุดิอาระเบียและตุรกี และการพบกันครั้งนี้ก็เป็นการพบกันครั้งแรกของผู้นำสหรัฐและซีเรียในรอบ 25 ปี โดยมีเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซาลมาน มกุฎราชกุมารซาอุดิอาระเบียเข้าร่วมพูดคุยด้วย ส่วนประธานาธิบดีเรเจ็บ ทายยิบ เออร์โดอัน ของตุรกีก็ร่วมพูดคุยออนไลน์ โดยตุรกีและซาอุดิอาระเบียถือเป็นผู้สนับสนุนสำคัญให้สหรัฐฟื้นฟูความสัมพันธ์กับซีเรีย ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้ได้สร้างความไม่พอใจให้กับอิสราเอลที่ยกระดับการโจมตีซีเรียเมื่อไม่นานมานี้ในความพยายามที่จะลดศักยภาพของกองทัพซีเรียที่เป็นปรปักษ์กับอิสราเอลมาช้านาน
ส่วนกระทรวงต่างประเทศซีเรียซึ่งออกมาขานรับการพบระหว่างสองผู้นำว่าเป็นการพบครั้งประวัติศาสตร์แต่ไม่พูดถึงเรื่องข้อตกลงอับราฮัม ขณะที่สื่อซีเรียก็ไม่พูดถึงเรื่องปรับระดับความสัมพันธ์ กระทรวงต่างประเทศซีเรียยังเผยด้วยว่าผู้นำสหรัฐและซีเรียได้หารือเรื่องความร่วมมือว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้าย
ล่าสุดทรัมป์ได้ออกจากซาอุดิอาระเบียมุ่งหน้าสู่กาตาร์แล้ว โดยเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซาลมานเสด็จมาส่งถึงบันไดเครื่องบินพร้อมโบกมืออย่างสนิทสนม