ทุกวันนี้การรับประทานทุเรียนหรือการรับชมละครไทยกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันของชาวจีนจำนวนไม่น้อย ขณะเดียวกันศิลปะการต่อสู้แบบดั้งเดิมของไทยอย่างมวยไทยก็ได้รับความนิยมชมชอบในจีนเช่นกัน
มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้แบบดั้งเดิมของไทย ซึ่งใช้สองมือ สองขา สองศอก และสองเข่า หลอมรวมเป็นแปดอาวุธโจมตี โดยผู้เรียนผู้เล่นมวยไทยในไทยมักเป็นผู้ชาย แต่มวยไทยในจีนนั้นกลายเป็นที่ชื่นชอบของทั้งชายหญิง รวมถึงเป็นกีฬาของทั้งเด็กและผู้ใหญ่
มาประลอง ศ.บุญยงยศ หรือคิม ผู้ฝึกสอนประจำชมรมการต่อสู้มวยไทยเอ็มพีแอล (MPL) ในกรุงปักกิ่ง เล่าว่าเขาอยู่ปักกิ่งมา 10 กว่าปีแล้ว ตอนแรกมียิมมวยไทยน้อยมาก แต่พอผ่านไปสัก 4-5 ปี เริ่มมียิมมวยไทยเพิ่มขึ้น และผู้คนในจีนหันมาสนใจมวยไทยกันมากขึ้น
ทั้งนี้ มวยไทยได้พัฒนาจากศิลปะการต่อสู้มาเป็นการออกกำลังกายประจำวันของผู้คนในมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
และขณะที่มวยไทยได้รับความนิยมในจีน การเต้นระบำเอ็งกอของจีนได้เข้าสู่ไทยและผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยวันเพ็ญ วิถีธรรม ผู้อำนวยการโรงเรียนบุญญวิทยาคารในอำเภอพนัสนิคม กล่าวว่าเอ็งกอเผยแพร่เข้าสู่อำเภอพนัสนิคมผ่านชาวจีนจากเมืองผู่หนิงหรือโผวเล้งเมื่อ 100 ปีก่อน นำไปสู่การก่อตั้งทีมนักเต้นระบำเอ็งกอในเวลาต่อมา
การเต้นระบำเอ็งกอกลายเป็นประเพณีพื้นบ้านในอำเภอพนัสนิคม มีคณะนักเต้นระบำเอ็งกอวัยเยาว์ขึ้นเวทีทำการแสดงตามงานเทศกาลของไทย รวมทั้งเทศกาลลอยกระทง ซึ่งมอบสีสันความสนุกสนานแก่ผู้ชมด้วยการแต่งองค์ทรงเครื่องอันโดดเด่นและท่วงท่าลีลาอันองอาจ
มวยไทยที่สำแดงความแข็งแกร่งและการเต้นระบำเอ็งกอที่สะท้อนจิตวิญญาณวีรบุรุษเขาเหลียงซานถือเป็นการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างเพื่อนบ้านและหุ้นส่วนที่ดี โดยการผสมผสานทางวัฒนธรรมและความกลมกลืนทางจิตวิญญาณจะช่วยนำพาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไทยก้าวสู่อีกห้าสิบปีทองของความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
เครดิต: สำนักข่าวซินหัว
: https://drive.google.com/drive/folders/1643JKB-wf7CPyWOTujtfzX0PFg8VgRuv?usp=sharing